xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ โวสหรัฐฯ สามารถ ‘ทำลายล้าง’ อัฟกานิสถาน-ปิดฉากสงครามภายใน 10 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
รอยเตอร์ - รัฐบาลอัฟกานิสถานเรียกร้องขอคำอธิบายจากสหรัฐฯ วานนี้ (23 ก.ค.) หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาคุยโวว่ากองทัพอเมริกันสามารถยุติสงครามอัฟกานิสถานได้ภายใน 10 วันด้วยการลบประเทศแห่งนี้ออกไปจากแผนที่โลก แต่ที่ไม่ทำก็เพราะสหรัฐฯ “ไม่ต้องการที่จะฆ่าคน 10 ล้านคน”

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ ทรัมป์ ได้พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรี อิมราน ข่าน แห่งปากีสถานที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ค.) โดยผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าปากีสถานอาจสามารถเป็น ‘โบรกเกอร์’ ในการทำข้อตกลงยุติสงครามอัฟกันที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 18 ปี

ถ้อยคำของ ทรัมป์ นำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากรัฐบาลคาบูล ซึ่งไม่พอใจอยู่แล้วที่ถูกกีดกันออกจากโต๊ะเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับตอลิบาน อีกทั้งยังเชื่อว่าปากีสถานหนุนหลังกลุ่มก่อความไม่สงบ

“ชนชาติอัฟกันจะไม่มีวันยอมให้มหาอำนาจต่างชาติมากำหนดชะตาของเรา” ทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกัน ระบุ “แม้รัฐบาลอัฟกันจะสนับสนุนความพยายามของสหรัฐฯ ในการที่จะฟื้นคืนสันติภาพกลับสู่อัฟกานิสถาน แต่รัฐบาลขอย้ำว่าผู้นำต่างชาติไม่มีสิทธิ์มากำหนดชะตาของประเทศเราโดยปราศจากการรับรู้ของผู้นำอัฟกัน”

คาบูลยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ออกมาชี้แจงคำพูด ทรัมป์ ว่าหมายความว่าอย่างไร

ทรัมป์ ระบุเมื่อวันจันทร์ (22) ว่าปากีสถานกำลังช่วยให้สหรัฐฯ ปลีกตัวออกห่างจากอัฟกานิสถาน ที่ซึ่งวอชิงตันต้องทำหน้าที่เสมือน “ตำรวจ” มากกว่าทำสงคราม

“ถ้าเราต้องการได้ชัยชนะในสงครามอัฟกานิสถาน ผมก็สามารถชนะได้ภายใน 1 สัปดาห์ แค่ไม่อยากฆ่าคน 10 ล้านคนก็เท่านั้น” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาว

“แผนการของผมมีอยู่ว่า ถ้าเราต้องการชนะสงครามครั้งนี้ อัฟกานิสถานอาจจะถูกลบหายออกไปจากแผนที่โลก มันจะหายไปเลย”

“ทุกอย่างจะจบสิ้นลงภายใน 10 วัน แต่ผมไม่อยากทำ ผมไม่อยากเลือกเส้นทางนั้น”

ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หลบเลี่ยงที่จะอธิบายคำพูด ทรัมป์ ในวันอังคาร (23) โดยอ้างว่ากระทรวงยึดนโยบายไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนการทหาร

“เรายังคงยึดมั่นในยุทธศาสตร์เอเชียใต้ และพร้อมสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลที่จะบรรลุข้อตกลงทางการเมืองและยุติสงครามในอัฟกานิสถาน” รีเบกกา รีบาริช โฆษกหญิงเพนตากอน ระบุ

ในขณะที่นักการเมืองอาวุโสอัฟกันส่วนใหญ่พากันปิดปากเงียบ แต่กระแสตอบโต้ทางสื่อโซเชียลนั้นค่อนข้างรุนแรง

“สิ่งที่คุณกำลังบอก (กับอัฟกานิสถาน) ก็คือ จงยอมรับข้อเสนอสันติภาพ (ของปากีสถาน) ซะ ไม่งั้นพวกคุณก็จะใช้ระเบิดนิวเคลียร์” เราะห์มาตุลเลาะห์ นาบิล อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองอัฟกัน ทวีตข้อความ

ชากิบ นูรี เจ้าของธุรกิจรายหนึ่งในกรุงคาบูล ระบุว่า “นี่เป็นถ้อยแถลงที่น่าอาย และเป็นการดูหมิ่นชาวอัฟกันทุกคน” ขณะที่ คาลิด ฮอสเซนี นักเขียนชาวอเมริกันเชื้อสายอัฟกันผู้แต่งนวนิยาย ‘The Kite Runner’ วิจารณ์คำพูด ทรัมป์ ว่า “สะเพร่าและน่าตกใจ”

อย่างไรก็ดี ชาวอัฟกันบางคนก็ยอมรับว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจใดๆ จะไปตอบโต้คำพูดทรัมป์ เพราะยังต้องพึ่งเงินอุดหนุนหลายพันล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ อยู่ทุกปี

ซัลไม คาลิซาด อดีตนักการทูตอเมริกันเชื้อสายอัฟกันซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้เจรจากับตอลิบาน ชี้ว่า คำพูดของผู้นำสหรัฐฯ เป็นการย้ำเตือนว่าข้อตกลงทางการเมืองเท่านั้นที่จะช่วยยุติสงครามได้

“คุณ ทรัมป์ ได้เน้นย้ำต่อประชาคมโลกว่า การใช้กำลังทหารนั้นไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมสำหรับสงครามอัฟกานิสถาน และสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ผ่านข้อตกลงทางการเมืองเท่านั้น” เขาทวีตข้อความ “ปากีสถานเองก็รับปากว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดสันติภาพ”
กำลังโหลดความคิดเห็น