xs
xsm
sm
md
lg

ปักกิ่งยัวะม็อบฮ่องกงบุก สนง.ตัวแทน ปาไข่-ละเลงสีดำใส่ตราแผ่นดินของจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ตราแผ่นดินของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าสำนักงานติดต่อประสานงานของรัฐบาลส่วนกลางประจำฮ่องกง ถูกผู้ประท้วงปาไข่ใส่และป้ายสีดำเมื่อวันอาทิตย์ (21 ก.ค.)
เอเจนซีส์ - ปักกิ่งเดือดดาล ประณามม็อบฮ่องกงที่เมื่อคืนวันอาทิตย์ (21 ก.ค.) ละเลงสำนักงานตัวแทนของรัฐบาลจีนจนเลอะเทอะ รวมทั้งปาไข่และป้ายสีดำใส่ตราแผ่นดินสาธารณรัฐประชาชนซึ่งติดตั้งหน้าอาคาร ระบุว่า เป็นการดูหมิ่น “ประชาชนจีนทั้งหมด” เป็นพฤติการณ์ที่ “ไม่มีทางสามารถอดทนได้เลย” ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง ตำรวจฮ่องกงอ้างเหตุว่าต้องจัดการกับผู้ประท้วงที่ก่อความรุนแรงในหลายจุด หลังถูกวิจารณ์หนักว่า ปล่อยให้ “แก๊งอันธพาลอั้งยี่” ไล่ตีผู้โดยสารรถไฟใต้ดินอยู่กว่าชั่วโมงกว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุ แถมไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแม้แต่รายเดียว

หวัง จื้อหมิน ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานของรัฐบาลประชาชนส่วนกลางในฮ่องกง แถลงเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ค.) ว่า การกระทำของผู้ประท้วงสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อหลักนิติธรรมที่เคยได้รับความชื่นชมอย่างสูงของฮ่องกง และทำลายความรู้สึกของประชาชนชาวจีนทุกคน ซึ่งรวมถึงเพื่อนร่วมชาติในฮ่องกง 7 ล้านคนอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันอาทิตย์ ผู้ประท้วงชุดดำสวมหมวกแข็งสีเหลืองหลายพันคนได้เข้ายึดถนนหน้าสำนักงานตัวแทนของปักกิ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โดยมีการนำสิ่งกีดขวางมากั้นถนน ปาไข่ใส่อาคาร ยิงแสงเลเซอร์ และพ่นสีบนผนัง โดยที่ตราแผ่นดินสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งติดตั้งอยู่หน้าอาคารทั้งถูกปาไข่และถูกป้ายด้วยสีดำ ในเวลาต่อมาตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วง

หวังสำทับว่า เขาขอประณามการประท้วงด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด รวมทั้งสนับสนุนให้รัฐบาลฮ่องกงนำตัวผู้ก่อจลาจลมาดำเนินคดี
เมื่อคืนวันอาทิตย์ ผู้ประท้วงชุดดำสวมหมวกแข็งสีเหลืองหลายพันคนได้เข้ายึดถนนหน้าสำนักงานตัวแทนของปักกิ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โดยมีการนำสิ่งกีดขวางมากั้นถนน ปาไข่ใส่อาคาร ยิงแสงเลเซอร์ และพ่นสีบนผนัง โดยที่ตราแผ่นดินสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งติดตั้งอยู่หน้าอาคารทั้งถูกปาไข่และถูกป้ายด้วยสีดำ ในเวลาต่อมาตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วง
ในเวลาต่อมาของวันเดียวกัน เกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่งย้ำว่า “การกระทำของพวกผู้เดินขบวนหัวรุนแรงบางคนส่งผลกระทบกระเทือนจนถึงจุดต่ำสุดของหลักการ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' และนั่นเป็นสิ่งที่ “ไม่มีทางสามารถอดทนได้เลย”

เกิ่งกล่าวเช่นกันว่า จีนคัดค้านการกระทำทุกอย่างที่เป็นความรุนแรง และให้ความสนับสนุน “อย่างหนักแน่น” แก่ “การใช้มาตรการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อปกป้องหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลส่วนกลางในฮ่องกง”

ทางด้านสื่อของทางการจีนก็พากันรายงานและประณามการประท้วงในฮ่องกง อาทิ สำนักข่าวซินหวาที่รายงานโดยอ้างอิงผู้แทนคนหนึ่งของสำนักงานประสานงาน ที่บอกว่า การประท้วงเป็นการท้าทายรัฐบาลปักกิ่งอย่างโจ่งแจ้ง รวมทั้งยังบอกว่า พฤติกรรมรุนแรงดังกล่าวทำให้เกิดอิทธิพลในทางเลวร้ายและรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ซินหวายังรายงานโดยอ้างอิงถ้อยคำของโฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกง-มาเก๊าของคณะรัฐมนตรีจีนที่ประณาม “พฤติกรรมชั่วร้ายของผู้ประท้วงหัวรุนแรงบางคน” และสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้รัฐบาลฮ่องกงดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดที่สอดคล้องตามกฎหมายเพื่อรับประกันความปลอดภัยของหน่วยงานของรัฐบาลจีนในฮ่องกง ปกป้องหลักนิติธรรม และลงโทษผู้ก่ออาชญากรรม
เมื่อคืนวันอาทิตย์ ผู้ประท้วงชุดดำสวมหมวกแข็งสีเหลืองหลายพันคนได้เข้ายึดถนนหน้าสำนักงานตัวแทนของปักกิ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โดยมีการนำสิ่งกีดขวางมากั้นถนน ปาไข่ใส่อาคาร ยิงแสงเลเซอร์ และพ่นสีบนผนัง โดยที่ตราแผ่นดินสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งติดตั้งอยู่หน้าอาคารทั้งถูกปาไข่และถูกป้ายด้วยสีดำ ในเวลาต่อมาตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วง
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อคืนวันอาทิตย์ (21) เช่นกัน ที่สถานีรถไฟใต้ดินของเขตเหยียนหลง ซึ่งเป็นแถบชนบทตั้งอยู่ในบริเวณนิวเทอริทอรีส์ ของฮ่องกง ใกล้ๆ ชายแดนติดต่อกับจีน ได้มีชายกลุ่มหนึ่งสวมเสื้อยืดขาว บางคนมีไม้กระบองเป็นอาวุธ ได้รุมทำร้ายผู้โดยสารทั้งที่ตัวสถานีและบนขบวนรถ รายงานข่าวระบุว่าในรถไฟขบวนนี้ผู้โดยสารจำนวนมากเป็นผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณตัวเกาะฮ่องกงทางย่านใจกลางเมือง และกำลังเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งมีนักข่าวรวมอยู่ด้วยจำนวน 45 คน โดย 1 คนอาการสาหัสมาก

ชาวฮ่องกงจำนวนมากวิจารณ์เรื่องที่ตำรวจที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงหลังได้รับแจ้งกว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุ ซ้ำไม่มีการจับกุมกลุ่มชายดังกล่าวที่ยังกระจายกันอยู่บนถนนรอบสถานีรถไฟใต้ดินในช่วงเช้ามืดวันจันทร์ นอกจากนั้นยังมีภาพชายบางคนเหล่านี้ขึ้นรถติดป้ายทะเบียนจีนออกจากที่เกิดเหตุ

ลัม ชุกติง สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยและเป็นหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ วิจารณ์การตอบสนองของตำรวจและกล่าวหา “สมาชิกแก๊งอันธพาลอั้งยี่” เป็นผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่า การใช้ความรุนแรงและป่าเถื่อนของคนเหล่านี้ละเมิดมาตรฐานขั้นต่ำสุดของสังคมที่มีอารยธรรมของฮ่องกง

ขณะที่ นาธาน ลอว์ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยชื่อดัง ทวิตโจมตีรัฐบาลว่า เวลาที่ม็อบจีนทำร้ายพลเมืองฮ่องกง กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายให้พึ่งพิง

เหตุการณ์นี้กระตุ้นความกังวลว่า แก๊งอั้งยี่กำลังกระโจนเข้าสู่สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของฮ่องกง
เมื่อคืนวันอาทิตย์ ผู้ประท้วงชุดดำสวมหมวกแข็งสีเหลืองหลายพันคนได้เข้ายึดถนนหน้าสำนักงานตัวแทนของปักกิ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โดยมีการนำสิ่งกีดขวางมากั้นถนน ปาไข่ใส่อาคาร ยิงแสงเลเซอร์ และพ่นสีบนผนัง โดยที่ตราแผ่นดินสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งติดตั้งอยู่หน้าอาคารทั้งถูกปาไข่และถูกป้ายด้วยสีดำ ในเวลาต่อมาตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วง
สำนักข่าวเอเอฟพีบอกว่า ระหว่างการประท้วงของขบวนการร่มเหลืองในปี 2014 ก็เกิดเหตุการณ์โจมตีผู้ประท้วงในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน และมีการกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของแก๊งอั้งยี่

ตอนเช้าวันจันทร์ สตีเฟน โล ผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกงแถลงว่า ระหว่างเกิดเหตุโจมตีที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตำรวจกำลังรับมือกับผู้ประท้วงที่ก่อความรุนแรงในหลายๆ จุด และปฏิเสธเรื่องที่ว่าตำรวจสมคบกับอั้งยี่ โดยบอกว่านี่เป็นการใส่ร้าย รวมทั้งสำทับว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ทางด้าน แครี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ประณามการโจมตีทั้งที่สำนักงานประสานงานของปักกิ่งและสถานีรถไฟใต้ดินว่า สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ฮ่องกง และประกาศว่า จะไม่ให้อภัยแก่ผู้ก่อเหตุ

ในตอนกลางวันของวันอาทิตย์ (21) ชาวฮ่องกงเรือนแสนได้เดินขบวนประท้วงรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการประท้วงช่วงสุดสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันแล้ว โดยการเดินขบวนเป็นไปอย่างสันติ จวบจนถึงจุดที่ตำรวจอนุญาต จากนั้นได้มีผู้ประท้วงหลายพันคนเคลื่อนขบวนต่อไปอีก จนกระทั่งเข้าไปละเลงสำนักงานตัวแทนของปักกิ่ง

ถึงแม้มีการประท้วงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ แต่ทั้งลัมและปักกิ่งไม่มีทีท่ายอมอ่อนข้อให้อีก หลังจากที่ลัมประกาศว่า ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่จุดชนวนการประท้วงครั้งล่าสุดนี้ “ตายแล้ว”

ขณะที่ผู้ประท้วงยืนกรานว่า จะเคลื่อนไหวต่อไปจนกว่าข้อเรียกร้องหลักจะได้รับการตอบสนอง ซึ่งได้แก่ การตั้งคณะกรรมการสอบสวนการใช้กำลังเกินเหตุของตำรวจ การอภัยโทษผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม การยกเลิกร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นการถาวร การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกตั้งอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งยังมีการเรียกร้องให้ลัมลาออก
กำลังโหลดความคิดเห็น