เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ที่ปรึกษาทำเนียบขาวทางเศรษฐกิจ แลร์รี คัดโลว(Larry Kudlow) จะจัดการประชุมในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์วันพรุ่งนี้(22 ก.ค)เกี่ยวข้องกับคำสั่งสหรัฐฯห้ามการจำหน่ายสินค้าไฮเทคให้กับหัวเว่ย แหล่งข่าว 2 คนที่ได้รับรายงานสรุปให้ข้อมูลวันศุกร์(19 ก.ค) ด้าน เควิน โห (Kevin Ho) ประธานด้านธุรกิจโทรศัพท์มือถือของหัวเว่ยให้สัมภาษณ์ ในเวลานี้ยังไม่มีแผน B ในมือโทรศัพท์รุ่นใหม่จะออกมาพร้อมกับระบบปฎิบัติกาแอนดรอยด์ เปิดเผยบริษัท “กูเกิล”ยังคงพยายามหาทางให้หัวเว่ยใช้ระบบปฎิบัติการนี้ ชี้ระบบปฎิบัติการหงเหมิง(Hongmeng)ของตัวเองยังไม่ใช่ทางเลือก พบยอดขายตกลงไปทันที 40% ภายใน 2 สัปดาห์หลังประกาศคำสั่งแบล็กลิสต์ทำเนียบขาวออกมา
ยาฮูนิวส์รายงานเมื่อวานนี้(20 ก.ค)ว่า ในการให้สัมภาษณ์พิเศษของาน เควิน โห (Kevin Ho) ประธานด้านธุรกิจโทรศัพท์มือถือจากสำนักงานใหญ่บริษัทหัวเว่ยที่เมืองเซินเจิ้นชี้ว่า บริษัทกูเกิลได้ยื่นขอใบอนุญาตพิเศษจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯแล้ว เพื่ออนุญาตให้บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากจีนยังคงสามารถใช้ปฎิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลได้ต่อไป
ทางโหกล่าวว่า หัวเว่ยคาดหวังว่า การขอยกเว้น(จากคำสั่งแบบ)ครั้งนี้ของกูเกิลจะได้รับอนุญาตเพื่อให้ทันกับที่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของหัวเว่ยที่กำลังจะออกมาในปีนี้
“กูเกิลยังคงพยายามที่จะจัดหาซัพพลายให้กับหัวเว่ย” เควิน โห กล่าว และเสริมว่า “พวกเรามีการสนทนากันไม่กี่ครั้งเกี่ยวกับความร่วมมือ”
ยาฮูนิวส์ชี้ว่า บริษัทอินเทลแถลงยอมรับว่า ทางบริษัทกำลังทำงานอย่างหนักในวอชิงตันเพื่อที่ทางอินเทลจะสามารถยังคงค้าขายกับบริษัทหัวเว่ยได้ต่อไป
ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานในวันเสาร์(20)ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดกล่าวว่า ในการประชุมวันพรุ่งนี้(22)จะมีรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีฟ มนูชิน เข้าร่วม
ทั้งนี้พบว่าข่าวการประชุมที่จัดโดยที่ปรึกษาทำเนียบขาวทางเศรษฐกิจ แลร์รี คัดโลว(Larry Kudlow) นั้นได้รับการยืนยันจากทำเนียบขาว พร้อมกล่าวว่า ในการหารือจะมีบริษัทกูเกิล และไมครอน(Micron) แต่ยืนยันว่า ประเด็นการหารือเกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจเท่านั้น
รอยเตอร์รายงานว่า ประเด็นเกี่ยวข้องกับหัวเว่ยคาดว่าน่าจะรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ใช่เหตุผลของการเชิญผู้บริหารบริหารบริษัทด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์เข้าประชุม แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯชี้
อนาคตในความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทไฮเทคสหรัฐฯและหัวเว่ย เบอร์ 1 ของโลกด้านการผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมและการสื่อสารยังคงไม่แน่นอนหลังจากในเดือนพฤษภาคมล่าสุดที่รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นบัญชีดำ
อย่างไรก็ตามในเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่าบริษัทสหรัฐฯอาจสามารถกลับมาจำหน่ายสินค้าให้กับทางหัวเว่ยได้ ท่ามกลางการคาดหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและปักกิ่งที่กลับมาสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง
รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ วิลเบอร์ รอส (Wilbur Ross) กล่าวถึงใบอนุญาตพิเศษที่จะออกมาเพื่ออนุญาตการจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีให้กับหัวเว่ยว่า ***จะสามารถออกได้โดยที่ต้องไม่มีภัยความมั่นคงเข้าเกี่ยวข้อง ***
ซึ่งรอยเตอร์รายงานก่อนหน้าว่า อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจให้ใบอนุญาตแก่บริษัทสัญชาติสหรัฐฯที่จะเริ่มต้นการจำหน่ายสินค้าให้กับทางหัวเว่ยใหม่
หนึ่งในแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ได้รับการสรุปถึงการประชุมเปิดเผยในวันศุกร์(19)ว่า บริษัทบรอดคอม อิงก์ (Broadcom Inc) จะเข้าร่วมด้วย รวมไปถึงเชื่อว่าไมโครซอฟต์จะได้รับเชิญร่วมการประชุม
อ้างอิงจากสื่อ engadget บรรดาผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ยยอมรับว่า 2 สัปดาห์หลังจากคำสั่งแบนของทรัมป์ออกมาส่งผลทำให้ยอดขายโทรศัพท์มือถือของบริษัทตกลงไปทันที 40% โดยทางผู้บริหารสูงสุดและผู้ก่อตั้ง เหริน เจิ้งเฟย ให้สัมภาษณ์กับยาฮูนิวส์วันศุกร์(19)ว่า ทางหัวเว่ยไม่ได้เตรียมรับมืออย่างเต็มที่ต่อการถูกขึ้นบัญชีดำ
ซึ่งสำหรับยอดขายที่ตกไปในช่วงแรกนั้นสามารถฟื้นกลับคืนได้อย่างรวดเร็ว อ้างอิงจากหัวเว่ย เกิดขึ้นหลังจากที่ทางบริษัทได้ออกมาตราการให้หลักประกันและการประกันเพื่อความมั่นใจระยะเวลา 2 ปีในประเทศเช่น อิตาลี เยอรมัน และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการประกันแก่ผู้บริโภคในประเทศเหล่านี้ที่ทางหัวเว่ยจะจ่ายเงินคืนเต็มจำนวนหากว่าแอพของกูเกิลบนเครื่องโทรศัพท์หัวเว่ยหยุดทำงานภายในระยะเวลา 2 ปีหลังจากวันที่ซื้อไปแล้ว
เหรินยอมรับต่อว่า ในเวลานี้ทางบริษัทยังไม่มีแผนอื่นนอกเหนือจากต้องใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลต่อไป “ทางเราจะเริ่มต้นการพัฒนาระบบปฎิบัติการบนโทรศัพท์มือถือของตัวเองต่อเมื่อที่ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป แต่ในเวลานี้ ทางเรายังไม่มีแผน”
ยาฮูนิวส์ชี้ว่า ระบบปฎิบัติการหงเหมิง (Hongmeng) ซึ่งหัวเว่ยเป็นผู้พัฒนานั้นจะถูกใช้สำหรับสมาร์ททีวีที่มีการต่อเชื่อมอินเตอร์เนต ระบบ AI หรือการขับอัตโนมัติ เท่านั้น
เควิน โหกให้สัมภาษณ์ว่า กำหนดการเปิดตัวโทรศัพท์สมาร์ทโฟน 5G ของหัวเว่ยนั้นอาจต้องเลื่อนออกไปหากว่า โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ไม่สามารถใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลได้ ซึ่งโทรศัพท์รุ่น Mate 20 X 5G มีกำหนดที่จะเปิดตัวในเดือนนี้ รุ่น Mate 30 มีกำหนดเปิดในเดือนกันยายน และรุ่น Mate X คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้
“ทางเรากำลังปรึกษาหารือถึงปัญหาพวกนี้ แต่ในเวลานี้ทางเรามีแต่แผน A ในมือในการเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกับระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์” โหกล่าว
ยาฮูนิวส์รายงานว่า เหรินได้คาดการณ์ว่า ภายในปี 2019 ทางหัวเว่ยจะสามารถส่งโทรศัพท์มือถือออกสู่ตลาดโลก 270 ล้านเครื่องสูงกว่าที่ทางบริษัทเคยตั้งเป้าไว้ก่อนที่หัวเว่ยจะถูกสหรัฐฯสั่งขึ้นบัญชีดำ
เหรินยังชี้ อ้างอิงการรายงานของสื่อ engadget ว่า ทางบริษัทไม่เชื่อว่า หัวเว่ยเป็นภัยทางความมั่นคงของสหรัฐฯ “ทางเราไม่มีเครือข่ายในสหรัฐฯ และไม่มีความตั้งใจที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 5G ของเราที่นั่น” และเสริมต่อว่า “ทรัมป์ไม่ได้มีอะไรกับทางเรา เพียงแต่เขาต้องการใช้เราเป็นเบี้ย แต่ดูเหมือนจีนจะไม่เล่นด้วยใช่ไหม”
ซึ่งในการให้สัมภาษณ์เหรินย้ำว่า การขึ้นบัญชีดำต่อหัวเว่ยมีแต่จะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯในเรื่องระบบเครือข่าย 5G สหรัฐฯจะต้องตามหลังเป็นเพราะสหรัฐฯไม่มีการเชื่อมโยงที่มีความเร็วสูง