รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันร่วงแรงในวันพฤหัสบดี(18ก.ค.) คาดกำลังผลิตในอ่าวเม็กซิโกฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์ หลังผ่านพ้นเฮอร์ริเคนลูกหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่วอลล์สตรีทและทองคำปิดบวก จากแนวโน้มความเป็นไปได้สูงขึ้นที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันขยับขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังอิหร่านยึดเรือต่างชาติที่บรรทุกน้ำมันลำหนึ่งในอ่าวเปอร์เซีย แต่จากนั้นราคาก็ปรับตัวลงหลังปรากฏว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเพียงเรือสินค้าขนาดเล็กและถูกจับเมื่อวันอาทิตย์(14ก.ค.) ฐานลักลอบลำเลียงเชื้อเพลิง
ราคาน้ำมันถูกฉุดจากกำลังผลิตน้ำมันและก๊าซนอกชายฝ่งที่สหรัฐฯที่ใกล้กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง นับตั้งแต่เฮอร์ริเคนแบร์รีซัดผ่านอ่าวเม็กซิโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนทำให้แท่นขุดเจาะหลายแห่งต้องอพยพคนงานและปรับลดกำลังผลิต ทั้งนี้ทางรอยัลดัตช์เชลล์ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในอ่าวเปิดเผยเมื่อวันพุธ(17ก.ค.) ว่ากำลังผลิตรายวันของบริษัทในภูมิภาคดังกล่าว คืนสู่ระดับราวๆ 80%แล้ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(18ก.ค.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ ได้แรงหนุนจากความเห็นของ จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ที่เพิ่มแรงคาดหมายว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 3.12 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,222.97 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.69 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,995.11 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.04 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,207.24 จุด
วิลเลียมส์บอกว่าเมื่ออัตราดอกเบี้ยและตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดไม่ควรรีรอให้ปัญหาทางเศรษฐกิจนั้นกลายเป็นจริงแล้วค่อยลงมือ
ความคาดหมายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายเดือนนี้ ก่ออุปสงค์โลหะมีค่าและดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(18ก.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,428.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์