รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(18ก.ค.) ระบุว่า ณ ปัจจุบันยังไม่มองถึงการคว่ำบาตรตุรกี ต่อกรณีซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย หนึ่งวันหลังจากทำเนียบขาวถอดตุรกีจากโครงการเครื่องบินขับไล่เอฟ-35
"ไม่ เรายังไม่มองถึงเรื่องนั้นในตอนนี้" ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน อิบราฮิม คาลิน โฆษกของประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี แสดงความไม่สบายใจต่อความเคลื่อนไหวของวอชิงตันที่ตัดสินใจถอดตุรกีจากโครงการร่วมเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 ตามรายงานของซีเอ็นเอ็นเติร์ก โดย คาลิน บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองพันธมิตรนาโต้อาจไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิมจากการตัดสินใจฝ่ายเดียวครั้งนี้
สหรัฐฯแถลงในวันพุธ(17ก.ค.) ว่าได้เริ่มกระบวนการถอดตุรกีออกจากโครงการเครื่องบินขับไล่ล่องหนเอฟ-35 แล้ว ขณะที่มันเป็นอากาศยานล้ำสมัยที่สุดในคลังแสงของสหรัฐฯ ซึ่งมีประจำการทั้งในนาโต้และประเทศพันธมิตรอื่นๆ
เช่นเดียวกับพันธมิตรอื่นๆในโครงการเอฟ-35 ตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตเครื่องบินไฮเทครุ่นนี้ โดยทำหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนราวๆ 900 ชิ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริการายหนึ่งเผยว่าการย้ายฐานการผลิตในโครงการเอฟ-35 จากตุรกี จะมีค่าใช้จ่ายราวๆ 500 ล้านดอลลาร์ถึง 600 ล้านดอลลาร์
ตุรกีถูกถอดพ้นจากโครงการเอฟ-35 ตามคำขู่และตามที่คาดหมายกันไว้ หลังจากอังการาได้รับมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซียชุดแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
วอชิงตันเป็นกังวลว่า การประจำการระบบS-400 ร่วมกับเครื่องบินเอฟ-35 จะทำให้รัสเซียได้รับข้อมูลภายในเกี่ยวกับระบบสเตลธ์ของอากาศยานรุ่นนี้