xs
xsm
sm
md
lg

จีดีพีจีนไตรมาส 2 ตกแรงสุดใน 27 ปี ย้ำพิษภัยสงครามการค้ากับอเมริกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

คนงาน ณ โรงงานผลิตยางยานยนต์แห่งหนึ่งในเมืองหนานทง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
เอเจนซีส์ - เศรษฐกิจจีนไตรมาส 2 ขยายตัวได้ด้วยอัตราต่ำสุดในรอบเวลาอย่างน้อย 27 ปี ท่ามกลางความกดดันจากสงครามการค้ากับอเมริกาและดีมานด์ทั่วโลกที่ซบเซา การเติบโตที่วูบลงนี้คาดกันว่าจะทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ใช้ไม้แข็งตอบโต้วอชิงตันยากขึ้น นอกจากนั้นปักกิ่งอาจมีทางเลือกในการใช้นโยบายทางการเงินเพียงจำกัด และอาจต้องพึ่งพิงมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจแทน

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (เอ็นบีเอส) แถลงในวันจันทร์ (15 ก.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ขยายตัว 6.2% ซึ่งแม้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และอยู่ภายในเป้าหมายการเติบโตตลอดทั้งปี 2019 ที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 6-6.5% แต่ก็ลดลงจากไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ 6.4% และถือเป็นสถิติต่ำสุดนับจากไตรมาสแรกปี 1992

เหมา เซิ่งหยง โฆษกเอ็นบีเอส ระบุว่า สภาวะเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศยังคงหนักหนาสาหัส โดยที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความไร้เสถียรภาพและความไม่แน่นอนภายนอกก็มีมากขึ้น เขาระบุว่า เศรษฐกิจของจีนโดยรวมกำลังอยู่ใต้ความกดดันขาลงครั้งใหม่

ที่ผ่านมา ปักกิ่งซึ่งคาดหมายว่าจีดีพีจะย่ำแย่ลงมากอยู่แล้ว ได้ออกมาตรการต่างๆ ทั้งด้วยการลดภาษีขนานใหญ่ถึงเกือบ 2 ล้านล้านหยวน (291,000 ล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งออกพันธบัตรเพื่อส่งเสริมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่ก็ดูยังไม่สามารถชดเชยการชะลอตัวภายในประเทศและอุปสงค์นอกประเทศที่วูบลง มิหนำซ้ำยังเจอพิษจากสงครามการค้ากับอเมริกาที่เป็นประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุด

รวมตลอดช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%

นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่า เร็วๆ นี้ปักกิ่งจะเพิ่มความพยายามมากขึ้นอีกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยที่ เหมา ก็แถลงว่า รัฐบาลยังมีช่องทางในการปรับใช้นโยบาย

มีการคาดหมายกันว่า การผ่อนคลายมาตรการทางการเงินจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางคนแย้งว่า จีนมีความสามารถการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเชิงรุกต่อไปอย่างจำกัด เนื่องจากความกังวลที่ว่า จะทำให้ระดับหนี้สินพุ่งขึ้นและก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง
เศรษฐกิจจีนไตรมาส 2 ขยายตัวได้ด้วยอัตราต่ำสุดในรอบเวลาอย่างน้อย 27 ปี ท่ามกลางความกดดันจากสงครามการค้ากับอเมริกา
เอเดรียน เหยา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสดูแลเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่เอเชีย ของ แอกซ่า อินเวสต์เมนต์ แมเนเจอร์ส ในฮ่องกง เห็นด้วยว่า จีนคงจะใช้นโยบายการคลังเป็นหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และใช้นโยบายการเงินช่วยสนับสนุนอีกที

อย่างไรก็ดี เรย์มอนด์ หยุง จากธนาคารเอเอ็นแซดเชื่อว่า ในวาระครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน 1 ต.ค.ปีนี้ แดนมังกรจะมีความจำเป็นทางการเมืองในการส่งเสริมเศรษฐกิจให้เติบโตมั่นคง โดยจะไม่ยอมให้จีดีพีตกต่ำกว่า 6%

ในการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนคราวนี้ ปรากฏว่าตัวเลขประจำเดือนมิถุนายนชี้ว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมทเพิ่มขึ้น 6.3% จาก 5% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดนับจากปี 2002 ขณะที่ยอดขายปลีกก็โต 9.8% จาก 8.6% ในเดือนพฤษภาคม

จูเลียน อีแวนส์-พริตชาร์ด จากแคปิตอล อิโคโนมิกส์ ระบุว่า การเติบโตในช่วงท้ายไตรมาส ไม่สามารถฉุดรั้งจีดีพีตลอดไตรมาส 2 จากการชะลอตัวได้ พร้อมกับคาดว่า แนวโน้มข้างหน้าจะยังไม่ดีขึ้นนัก

ด้านสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนเผยว่า ยอดขายช่วง 6 เดือนแรกลดลง 12.4%

การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ขยับขึ้นเพียง 4.1% จากที่เคยขยายตัวเกือบ 20% มาหลายปี

ยอดนำเข้าและส่งออกของเดือนมิถุนายนชวนกันลดลง สวนทางกับอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้น 5.1%

สตีเฟน อินส์ หุ้นส่วนระดับจัดการของ แวนการ์ด มาร์เก็ตส์ ชี้ว่า สงครามการค้าอเมริกา-จีนกำลังส่งผลอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการโต้ตอบกันด้วยภาษีศุลกากรต่อสินค้ารวมมูลค่ากว่า 360,000 ล้านดอลลาร์ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งสองฟากมหาสมุทรแปซิฟิก

สงครามการค้าเป็นปัจจัยทำให้กิจกรรมการผลิตของจีนหดตัวลงเมื่อเดือนที่แล้ว และการส่งออกไปยังอเมริกาดิ่งลงกว่า 8% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น