ภายใต้แผนซึ่งเพิ่งร่างสำเร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน สหรัฐฯ จะเป็นผู้จัดส่งพวกเรือบังคับการ รวมทั้งเป็นผู้นำภารกิจลาดตระเวนของกลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้ ขณะที่พวกเรือของประเทศที่เข้าร่วมก็จะออกตรวจการณ์ใกล้ๆ กับประดาเรือบังคับการของอเมริกา และคอยให้ความคุ้มกันแก่เรือสินค้าซึ่งติดธงของประเทศนั้นๆ
พล.อ. ดันฟอร์ด ได้ชี้แจงรายละเอียดให้สื่อมวลชนทราบ หลังจากที่ได้หารือกับ รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม มาร์ค เอสเปอร์ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ เมื่อวันอังคาร (9)
“เรากำลังอยู่ระหว่างการติดต่อไปยังหลายประเทศ เพื่อดูว่าการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรเพื่อรับรองเสรีภาพการเดินเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุซและช่องแคบ บับ อัล-มันดับ จะเป็นไปได้หรือไม่” ดันฟอร์ด ระบุ
“ผมคิดว่าในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าน่าจะทราบว่ามีประเทศใดบ้างที่พร้อมสนับสนุนความริเริ่มนี้ หลังจากนั้นเราก็จะประสานโดยตรงไปยังกองทัพของประเทศเหล่านั้น เพื่อระบุกำลังสมรรถนะต่างๆ ที่จะสนับสนุนแผนดังกล่าว”
อิหร่านข่มขู่เรื่อยมาว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ที่เป็นเส้นทางผ่านของน้ำมันดิบเกือบ 1 ใน 5 ของโลก หากถูกคว่ำบาตรจนตนเองไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้ ซึ่งนี่ก็เป็นเป้าหมายที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พยายามจะกระทำ เพื่อบีบคั้นให้อิหร่านยอมทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขใหม่
แต่ข้อเสนอจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรนานาชาติเพื่อปกป้องเส้นทางเดินเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุซเริ่มถูกพิจารณาอย่างจริงจัง หลังจากที่มีเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำถูกโจมตีในอ่าวเปอร์เซียเมื่อช่วงเดือน พ.ค. และ มิ.ย. อีกทั้งอิหร่านยังยิงสอยอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ของอเมริกา 1 ลำตกใกล้ๆ ช่องแคบแห่งนี้ จนทำให้ ทรัมป์ ถึงขั้นสั่งให้กองทัพเตรียมโจมตีทางอากาศเพื่อแก้แค้น ก่อนจะยกเลิกคำสั่งในนาทีสุดท้าย
ทางด้าน โคทาโระ โนงามิ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น หนึ่งในชาติพันธมิตรสำคัญของวอชิงตัน ไม่ได้ให้ความเห็นตรงๆ เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับข้อเสนอของดันฟอร์ด
“เรามีความกังวลทีเดียวเกี่ยวกับความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตะวันออกกลาง ขณะที่การรับประกันให้สามารถผ่านเข้าออกช่องแคบฮอร์มุซได้อย่างปลอดภัย คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศของเรา รวมทั้งสำหรับสันติภาพและความมั่งคั่งไพบูลย์ของสังคมระหว่างประเทศด้วย” โนงามิ กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติที่กรุงโตเกียววันพุธ (10)
“ญี่ปุ่นจะรักษาการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯและชาติที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และจะยังคงใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดเสถียรภาพและการลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง”
แม้พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะเคยพูดถึงแผนป้องกันช่องแคบฮอร์มุซมานานแล้ว แต่ถ้อยแถลงของ ดันฟอร์ด ได้ให้ข้อมูลใหม่ๆ ว่ากลุ่มพันธมิตรซึ่งจัดจัดตั้งขึ้นมานี้ จะออกปฏิบัติการในช่องแคบ บับ อัล-มันดับ ซึ่งอยู่ตรงชายฝั่งเยเมนด้วย
สหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กล่าวหามานานว่าพวกกบฏฮูตีในเยเมนที่มีอิหร่านหนุนหลัง มักจะซุ่มโจมตีเรือในช่องแคบ บับ อัล-มันดับ ซึ่งเชื่อมทะเลแดงเข้ากับอ่าวเอเดนและทะเลอาหรับ
แต่ละวันจะมีน้ำมันดิบเกือบ 4 ล้านบาร์เรลถูกส่งผ่านช่องแคบ บับ อัล-มันดับ ออกไปยังยุโรป สหรัฐฯ และเอเชีย ไม่รวมถึงสินค้าอื่นๆ
ดันฟอร์ดย้ำว่า สหรัฐฯจะจัดหาพวกเรือ “สำหรับการบังคับการและการควบคุม” ให้ แต่ระบุด้วยว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คือชาติอื่นๆ จะต้องจัดหาพวกเรือที่ใช้ในการตรวจการณ์น่านน้ำต่างๆ ระหว่าง เรือบังคับการเหล่านี้
ขณะที่ส่วนที่สามของภารกิจนี้ จะเป็นการให้ชาติสมาชิกในกลุ่มพันธมิตรนี้ เข้าทำหน้าที่คุ้มกันเรือพาณิชย์ของประเทศของพวกตน
เรา “คาดหมายว่าการตรวจการณ์และการคุ้มกันจริงๆ จะกระทำโดยชาติอื่นๆ” เขาบอก
ดันฟอร์ดกล่าวด้วยว่า ขนาดของการรณรงค์ครั้งนี้สามารถปรับตัวยืดหยุ่นได้ โดยขึ้นอยู่กับจำนวนประเทศที่ประกาศเข้าร่วม
“เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่สามารถยืดหดได้ ใช่ไหมครับ? ดังนั้น ถ้าผู้เข้ามีส่วนร่วม มีเพียงจำนวนน้อย เราก็สามารถมีกองกำลังเพื่อดำเนินภารกิจขนาดเล็กๆ แต่เราจะขยายเมื่อจำนวนชาติที่ยินดีจะเข้าร่วม ประกาศตัวให้รับทราบกัน” เขาบอก