เอเอฟพี - เหตุปะทะรุนแรงระหว่างชนเผ่าคู่อริในปาปัวนิวกินีทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ 2 คน ขณะที่นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีประกาศวันนี้ (10 ก.ค.) ว่าจะนำตัวพวกฆาตกรที่ลงมือสังหารโหดมาลงโทษให้ได้
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่า มีชาวบ้านอย่างน้อย 24 คนถูกสังหารที่จังหวัดเฮลา (Hela) ซึ่งเป็นเขตชนบทห่างไกลทางภาคตะวันตกของปาปัวนิวกินี หลังเกิดเหตุปะทะรุนแรงนาน 3 วันระหว่างชนเผ่าพื้นเมืองที่เป็นคู่อริกัน
แม้ชนเผ่าในแถบที่ราบสูงของปาปัวนิวกินีจะขัดแย้งกันมานานนับร้อยๆ ปี ทว่าการเข้ามาของปืนระบบอัตโนมัติทำให้การปะทะแต่ละครั้งมีคนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้น และกลายเป็นวงจรความรุนแรงที่ไม่สิ้นสุด
“มีผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว 24 คนในเวลา 3 วัน และวันนี้ก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีก” วิลเลียม บันโด ผู้ว่าการจังหวัดเฮลา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี “เรากำลังติดตามสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในพื้นที่”
บันโด ขอให้มีการส่งตำรวจ 100 นายเป็นอย่างต่ำลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งมีอยู่เพียงราวๆ 40 คน
เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นสร้างความตกตะลึงต่อชาวปาปัวนิวกินี รวมถึงนายกรัฐมนตรี เจมส์ มาราเป ผู้นำประเทศคนใหม่ซึ่งมีพื้นเพอยู่ที่จังหวัดเฮลา
มาราเป ประกาศจะส่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงไปช่วยควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตือนกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า “เวลาของพวกคุณหมดแล้ว”
“วันนี้เป็นวันที่น่าเศร้าสลดที่สุดวันหนึ่งในชีวิตผม เด็กและมารดาหลายคนเพิ่งถูกสังหารที่หมู่บ้านมูนิมา (Munima) และหมู่บ้านคาริดา (Karida) ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งของผมเอง”
มีรายงานว่านักรบจากชนเผ่าคู่อริได้ใช้มีดฟันผู้หญิง 6 คนและเด็กอีก 8 คนเสียชีวิตที่หมู่บ้านคาริดา ในจำนวนนี้มีหญิงตั้งครรภ์รวมอยู่ด้วย 2 คน โดยใช้เวลาก่อเหตุรวม 30 นาที
พิลส์ โกโล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่น ระบุว่า ชิ้นส่วนศพบางชิ้นก็ยากที่จะระบุตัวตนได้ และได้โพสต์ภาพชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่ถูกมัดรวมกันไว้โดยใช้มุ้งแทนถุงบรรจุศพ
“พวกอาชญากรมีปืนทั้งหลาย เวลาของพวกคุณหมดลงแล้ว” มาราเป กล่าว “คอยดูว่าผมจะทำอย่างไรกับอาชญากรที่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผมไม่กลัวที่จะใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นสูงสุดกับพวกคุณ”
ผู้นำปาปัวนิวกินีย้ำว่า โทษประหารชีวิตได้ “ถูกบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว”
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่การสู้รบในอดีตมักเกิดจากการที่คนในชุมชนถูกข่มขืน, ถูกขโมยทรัพย์สิน หรือไม่ก็มีการรุกล้ำอาณาเขตกัน
.