เอเอฟพี- ชายชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งแปรพักตร์ไปยังเกาหลีเหนือตามรอยพ่อแม่นักการเมืองของเขาที่ก็เคยเปลี่ยนใจสวามิภักดิ์จนโด่งดังไปทั่วในช่วงทศวรรษ 1980 อ้างจากสื่อทางการเปียงยาง
การกดขี่และความยากจนยาวนานหลายปีในเกาหลีเหนือส่งผลให้ประชากรราว 30,000 คนหลบหนีไปยังเพื่อนบ้านประชาธิปไตยในช่วงหลายสิบปีมานี้นับตั้งแต่สงครามเกาหลี แต่การแปรพักตร์ในทางกลับกันเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากมาก
โช อินกุก บุตรชายของ โช ดอคชิน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ที่เสียชีวิตเมื่อปี 1999 สามปีหลังย้ายไปยังเกาหลีเหนือพร้อมกับภรรยา เดินทางถึงเปียงยางเมื่อวันเสาร์ (6) สื่อทางการ อูริมินซอคคิริ รายงาน
ในภาพวีดิโอที่ถ่ายในสนามบินและถูกโพสต์โดยเว็บไซต์ดังกล่าววานนี้ (7) โช วัย 72 ปี กล่าวว่า เขาเดินทางมาเมืองหลวงของเกาหลีเหนือเพื่อ “อยู่อาศัย”
“ผมไม่อาจหาคำมาอธิบายความรู้สึกซาบซึ้งใจต่อสาธารณรัฐเกาหลีที่รับผมไว้ในอ้อมแขน” เขากล่าวในคลิป
โช กล่าวเสริมว่า เขาตัดสินใจมาใช้ชีวิตในเกาหลีเหนือเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของพ่อแม่
วันนี้ (8) กระทรวงรวมชาติของโซล ระบุว่า พวกเขาไม่ทราบเรื่องการแปรพักตร์ของโชจนกระทั่งมีรายงานข่าวออกมา และระบุว่า พวกเขาไม่ติดตามตัวบุคคลเพราะว่าพวกเขา “เคารพเสรีภาพในการโยกย้าย”
ในอดีตเคยมีชาวเกาหลีใต้ที่ยากจนจำนวนหนึ่งแปรพักตร์ไปยังเกาหลีเหนือ แต่เปียงยางส่งพวกเขาหลายคนกลับมาเนื่องจากพวกเขาไม่ค่อยรับค่านิยมจากนโยบายโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือส่งชาวเกาหลีใต้ 2 คนกลับมาเมื่อปีที่แล้ว ลี แซงมิน โฆษกกระทรวงฯ ระบุ โดยไม่ได้ให้รายละเอียด รัฐบาลไม่ได้บันทึกจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่แปรพักตร์ไปยังเกาหลีเหนือ เขากล่าวเสริม
เปียงยางซึ่งกำลังถูกคว่ำบาตรอย่างหนักเนื่องจากการทดสอบนิวเคลียร์และการปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกล ประณามผู้แปรพักตร์ไปยังเกาหลีใต้ว่าเป็น “เดนมนุษย์”
กลุ่มผู้ที่สามารถหลบหนีไปยังเกาหลีใต้เป็นแหล่งข่าวสำคัญที่บอกเล่าการปฏิบัติต่อพลเมืองอย่างป่าเถื่อนของรัฐบาลโสมแดง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพลชาวเกาหลีใต้ถูกไล่ออกฐานละเลยการป้องกันชายแดน หลังจากเรือประมงลำหนึ่งจากเกาหลีเหนือที่ขนคน 4 คนสามารถข้ามทะเลระหว่างสองประเทศและเทียบท่าได้โดยไม่ถูกตรวจจับ