รอยเตอร์ – นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นกล่าววันนี้ (3) ว่า เขาไม่ได้กำลังพิจารณาเพิ่มภาษีการขายสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ภายใต้คณะรัฐบาลของเขา และว่า เขาไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้นไปอีกอย่างน้อยสิบปี
นายกรัฐมนตรีประกาศหลายครั้งว่าจะเพิ่มภาษีการขายถึง 10 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคมตามแผน หากไม่มีความแตกตื่นทางเศรษฐกิจจาการล้มละลายของธนาคารเลห์แมน บราเธอร์
เมื่อต้นปี องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Cooperation and Development หรือโออีซีดี) แนะนำว่า ภาษีการขายของญี่ปุ่นจำเป็นต้องเพิ่มมากถึง 26 เปอร์เซ็นต์เพื่อจ่ายค่าความปลอดภัยทางสังคมเพื่อสนับสนุนประชากรที่เป็นผู้สูงวัยจำนวนมาก
บรรดาผู้กำหนดนโยบายหลีกเลี่ยงที่จะคุยเรื่องการเพิ่มภาษี ถึงแม้ว่าจะมีภาระหนี้สาธารณะก้อนใหญ่ที่สุดในโลกอุตสาหกรรม สองเท่าตัวของขนาดเศรษฐกิจ 5 ล้านล้านดอลลาร์ของประเทศ
อาเบะเลื่อนแผนการเพิ่มภาษีมาแล้วสองครั้ง นับตั้งแต่การเพิ่มภาษีครั้งล่าสุดจาก 5 เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายนปี 2014 ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและทำให้เศรษฐกิจทรุดตัว แรงกดดันที่มากขึ้นต่อเศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เขาอาจเลื่อนมันออกไปอีกครั้ง
“ผมไม่ได้คิดเรื่องเพิ่มภาษีการขายอีกแล้วภายใต้คณะบริหารอาเบะ” เขาบอกในการประชันวิสัยทัศน์ร่วมกับผู้นำพรรคการเมืองคนอื่นๆ ก่อนการเลือกตั้งสภาสูงในเดือนนี้
“ผมไม่คิดว่ามันจะมีความจำเป็นในช่วง 10 ปีนี้” เขากล่าว เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการเพิ่มสูงกว่าที่กำหนดในเดือนตุลาคม