รอยเตอร์ - สายการบิน ‘อีวีเอแอร์’ ของไต้หวันประกาศยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มเติมอีก 550 เที่ยวไปจนถึงช่วงกลางเดือน ก.ค. สืบเนื่องจากปัญหาลูกเรือผละงานประท้วงซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 14 ขณะที่การเปิดเจรจาเรื่องค่าแรงและเงื่อนไขการทำงานในสัปดาห์นี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ
พนักงานอีวีเอแอร์บางส่วนเริ่มยุติการปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งส่งผลให้เที่ยวบินมากกว่า 2,000 เที่ยวต้องล่าช้าหรือถูกยกเลิก และมีผู้โดยสารได้รับผลกระทบแล้วกว่า 450,000 คน
อีวีเอแอร์ประเมินว่าบริษัทสูญเสียรายได้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,750 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1,720 ล้านบาท) จากการนัดหยุดงานคราวนี้ ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การบินของประเทศ
“ทางบริษัทยังคงล่าช้าอยู่ เราเรียกร้องให้พวกเขาละวางอคติ และลงนามในข้อตกลงกับเราโดยเร็วที่สุด” จูดี เซียว (Jusy Hsiao) เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานสื่อมวลชนของสหภาพพนักงานอีวีเอแอร์ระบุ ภายหลังการเจรจากับผู้แทนสายการบินซึ่งใช้เวลานานถึง 11 ชั่วโมงล้มเหลวอีกครั้งเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.)
อีวีเอแอร์แถลงเมื่อค่ำวันอังคาร (2) ว่าทางบริษัทได้บรรลุ “ข้อตกลงเบื้องต้นบางประการ” กับสหภาพพนักงาน และ “พร้อมเสมอที่จะเปิดประตูต้อนรับพนักงานเหล่านี้กลับสู่บ้าน” ขณะที่ทางสหภาพก็ยืนยันว่ามีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและผู้สนับสนุนราว 1,000 คนไปชุมนุมที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน เข้ามาช่วยแก้ไขระบบบริหารจัดการแบบ “อนาธิปไตยและเผด็จการ” ของสายการบินแห่งนี้
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกว่า 2,000 คนซึ่งเป็นหญิงล้วนได้สลับกันเข้าร่วมประท้วงที่หน้าสำนักงานใหญ่อีวีเอแอร์ใกล้สนามบินนานาชาติเถาหยวนตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา
อีวีเอแอร์ได้ยื่นฟ้องสหภาพแรงงานในหลายข้อหา ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องค่าชดเชยวันละ 34 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 33.4 ล้านบาท) จากการนัดหยุดงานที่ผิดกฎหมาย