xs
xsm
sm
md
lg

คาด'ซัมมิตทรัมป์-สี'ไร้ปาฎิหาริย์ดีลการค้า สองฝ่ายหวังแค่ฟื้นเจรจา-จุดยืนไม่เปลี่ยน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>ดีไซน์ตัวอักษร จี 20 โอซากา ซึ่งตั้งอยู่ด้านนอกสถานที่จัดการประชุมซัมมิตกลุ่ม จี20 ในเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันพุธ (26 มิ.ย.)  โดยซัมมิตครั้งนี้จะมีขึ้นในวันศุกร์ (28) และวันเสาร์ (29)  แต่เวลานี้ดูเหมือนพวกการประชุมข้างเคียงของเหล่าผู้นำ เช่นระหว่าง ทรัมป์-สี, ทรัมป์-ปูติน จะได้รับความสนใจมากกว่าตัวการประชุมเองเสียอีก </i>
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารสหรัฐฯ แย้มอเมริกาหวังฟื้นการเจรจาการค้ากับจีน หลังทรัมป์-สี หารือข้างเคียงซัมมิตกลุ่ม จี20 ที่ญี่ปุ่นในอีกไม่กี่วันนี้ แต่จะไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ ในเรื่องการใช้มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของตน ขณะที่แหล่งข่าววงในบางคนตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าไม่มีความคืบหน้าและทรัมป์สั่งรีดภาษีแดนมังกรเพิ่ม ก็มีหวังการเจรจาการค้าจบสนิท

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะขยายการลงโทษด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรไปสู่สินค้าจีนอีก 325,000 ล้านดอลลาร์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือจะครอบคลุมสินค้าทั้งหมดที่ส่งจากจีนเข้าไปขายในสหรัฐฯ ไม่เว้นแม้แต่สินค้าอุปโภคบริโภคอย่างโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์ และเครื่องนุ่งห่ม หากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังไม่ผ่อนปรนจุดยืนและแก้ไขในสิ่งที่สหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมการค้าของจีน

เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารสหรัฐฯผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งระบุว่า วอชิงตันและปักกิ่งอาจชะลอการขึ้นภาษีระลอกใหม่ออกไปก่อน เพื่อให้การเจรจาข้อตกลงการค้าคืบหน้าต่อไปได้ แต่ยังไม่แน่ว่ามาตรการรอมชอมเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

เจ้าหน้าที่ผู้นี้ย้ำว่า สหรัฐฯ ไม่เต็มใจอ่อนข้อให้ สี และยังต้องการให้ปักกิ่งกลับสู่โต๊ะเจรจาพร้อมกับคำมั่นสัญญาเดิมที่จีนพยายามบิดพลิ้วจนเป็นเหตุให้การเจรจาต้องหยุดชะงักไปเมื่อเดือน พ.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติด้านทรัพย์สินทางปัญญาและการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี ขณะที่จีนยืนกรานว่า ทั้งสองฝ่ายต้องประนีประนอมและข้อตกลงการค้าต้องเป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ รวมทั้งต้องการให้วอชิงตันยกเลิกมาตรการขึ้นภาษีที่ประกาศไปแล้ว นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ทีมเจรจาของจีนได้เพิ่มสมาชิกที่มีแนวทางแข็งกร้าวขึ้น

ฝ่ายจีนยังคงยืนกรานในวันจันทร์ (24) ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต้องประนีประนอมเพื่อให้การเจรจาไปต่อได้ และข้อตกลงการค้าก็จะต้องให้ประโยชน์ต่อทั้งจีนและสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยรองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ของจีนซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้เจรจาการค้าของปักกิ่ง ได้พูดคุยโทรศัพท์กับ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯในวันนั้น เพื่อเป็นการกรุยทางก่อนที่ ทรัมป์ และ สี จะพบกันข้างเคียงเวทีประชุม จี20 ที่ญี่ปุ่นช่วงปลายสัปดาห์นี้

บรรดาที่ปรึกษาทรัมป์ออกตัวว่า การพบกันระหว่างสองผู้นำอาจไม่มีข้อตกลงการค้าออกมา เพียงแค่หวังว่า จะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยสำหรับการเปิดเจรจาขึ้นมาใหม่เท่านั้น โดยการเจรจากว่าจะบรรลุข้อตกลงได้จริงๆ คงต้องใช้เวลาต่อรองกันเป็นเดือนหรือเป็นปี

แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับการเจรจาอีกคนตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าทรัมป์ไม่เห็นว่าการเจรจามีความคืบหน้า และสั่งขึ้นภาษีระลอกใหม่ ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกจะเลวร้ายลงไปอีกและทำให้การเจรจาการค้าจบเห่
<i>โลโก้ของการประชุมซัมมิต จี20 ที่โอซากา </i>
กระนั้น เจ้าหน้าที่คณะบริหารสหรัฐฯ คนเดิมบอกว่า ทรัมป์มองแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสบรรลุข้อตกลง ทั้งยังบอกว่า ยินดีรวมประเด็นหัวเว่ยในข้อตกลงการค้าด้วย

เดือนที่ผ่านมา หัวเว่ยถูกวอชิงตันตีตราว่า เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงและห้ามบริษัทอเมริกันติดต่อค้าขายด้วย ส่งผลให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมนับสิบแห่งของสหรัฐฯ ที่พึ่งพิงอุปกรณ์เครือข่ายหัวเว่ยอยู่ ต้องรีบไปหารือคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่างอิริกสันและโนเกีย เพื่อให้จัดหาอุปกรณ์แทนหัวเว่ย ขณะเดียวกันพวกบริษัทซึ่งเป็นซัปพลายเออร์ส่งชิ้นส่วนและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีต่างๆ กับยักษ์ใหญ่เทเลคอมจีนรายนี้ หลายๆ รายก็ตัดสัมพันธ์หรือทบทวนความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับหัวเว่ย

อย่างไรก็ดี วันอังคาร (25) ไมครอน เทคโนโลยี ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา เผยว่า ได้กลับไปจัดส่งสินค้าบางอย่างที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแซงก์ให้หัวเว่ยตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยอมรับว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะจัดส่งสินค้าให้หัวเว่ยต่อไปอีกนานแค่ไหน เนื่องจากสถานการณ์ของบริษัทจีนแห่งนี้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไร้ความแน่นอน

ความเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ที่ระบุว่า บริษัทอเมริกันบางแห่งพบวิธีเลี่ยงบาลีมาตรการแซงก์ชัน เช่น จัดส่งสินค้าที่ผลิตนอกอเมริกาให้หัวเว่ย ซึ่งจะทำให้บริษัทขรยแห่งนี้สามารถผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟนและเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ต่อไป

วันอังคาร (25) เช่นกัน เฟดเอ็กซ์ บริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์ด่วนของอเมริกา แถลงเตือนว่า แนวโน้มผลประกอบการปีหน้าถูกปกคลุมด้วยความไม่แน่นอนของสงครามการค้าอเมริกา-จีน เฟร็ด สมิธ ประธานบริหารบริษัทยังวิจารณ์คณะบริหารทรัมป์ที่โน้มเอียงใช้ลัทธิกีดกันการค้า รวมทั้งเหน็บนโยบายการค้าของจีนว่า เป็นลัทธิพาณิชย์นิยม ก่อนสำทับว่า เฟดเอ็กซ์ยังคงมุ่งมั่นทำธุรกิจในจีนโดยปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นของแดนมังกร

เฟดเอ็กซ์ยังขอโทษอีกครั้งเรื่องการจัดส่งของผิดพลาดให้หัวเว่ย หลังจากบริษัทแห่งนี้ถูกทรัมป์โยงเข้าสู่สงครามการค้าและสั่งแบนเมื่อเดือนที่แล้ว

ในวันจันทร์ เฟดเอ็กซ์ยื่นฟ้องกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่ออกข้อจำกัดการส่งออกซึ่งบังคับให้บริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบบรรจุภัณฑ์ที่อาจละเมิดมาตรการแซงก์ชั่นของกระทรวง และขอให้ศาลระงับการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว เพราะเป็นสิ่งที่บริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์ยากจะปฏิบัติตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น