รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - อัยการพิเศษสหรัฐฯ โรเบิร์ต มุลเลอร์ จะเข้าให้การตอ่หน้าคณะกรรมาธิการด้านยุตธรรมและคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯแบบสาธารณะในวันที่ 17 ก.ค นี้ เกี่ยวข้องกับรายงานคดีรัสเซียยุ่งเกี่ยวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ซึ่งรายงานได้ถูกส่งให้กับกระทรวงยุติธรรมในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้สรุปว่าทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้สมคบกับรัสเซีย
รอยเตอร์รายงานวันนี้(26 มิ.ย)ว่า ประธานคณะกรรมาธิการด้านยุติธรรมสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต เจอร์โรลด์ แนดเลอร์( Jerrold Nadler) และประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสหรัฐฯ อดัม ชิฟ (Adam Schiff) จากพรรคเดโมแครตเช่นกัน กล่าวผ่านแถลงการณ์ร่วมว่า อัยการพิเศษสหรัฐฯ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ตกลงที่จะขึ้นให้การหลังจากที่คณะกรรมาธิการ 2 ชุดได้ออกหนังสือคำสั่งเรียกตัวในวันอังคาร(18)
ในรายงานการสอบสวนของมุลเลอร์ที่ออกมาในช่วงเดือนเมษายนล่าสุดจำนวน 448 หน้า ระบุพบว่ารัสเซียได้เข้ามายุ่งเกี่ยวการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2016 จริง และอีกทั้งทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันมีการติดต่อกับรัสเซียหลายครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในรายงานชี้ว่า มีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่ามีการสมคบคิดระหว่างทีมหาเสียงทรัมป์และรัสเซีย
และในรายงานที่มีการถูกเซนเซอร์ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของทรัมป์เข้ามาก้าวก่ายการสอบสวนของมุลเลอร์หลายครั้ง แต่ในรายงานไม่ได้ระบุว่า ถือเป็นความพยายามในการขัดขวางกระบวนการทางยุติธรรมหรือไม่
มุลเลอร์ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 29 พ.คก่อนหน้า หลังจากการสอบสวนที่กินระยะเวลานาน 2 ปีกล่าวว่า การสอบสวนของเขาจะไม่ยุติลงที่การดำเนินคดีทางอาญาต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการสั่งฟ้องนั้นต้องขึ้นกับทางรัฐสภาคองเกรสสหรัฐฯที่จะตัดสินใจเองว่า ทรัมป์สมควรที่จะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่
"หากว่าเรามีความเชื่อมั่นว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้ทำผิด พวกเราจะกล่าวเช่นนั้น" มุลเลอร์กล่าว และเสริมว่า "พวกเรา อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ตัดสินเกี่ยวข้องในประเด็นว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯกระทำผิดทางอาญาหรือไม่"
ทั้งนี้รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บาร์ ออกมาสรุปว่า มีหลักฐานไม่มากพอในรายงานของมุลเลอร์ที่จะบ่งชี้ว่า ทรัมป์ขัดขวางต่อกระบวนการทางยุติธรรมสหรัฐฯ
ซึ่งนับตั้งแต่รายงานการสอบสวนออกมา ทางฝ่ายพรรคเดโมแครตพยายามอย่างหนักที่จะให้ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯยอมเปิดเผยฉบับเต็มแต่ก็ไร้ผล
ด้านประธานรัฐสภาคองเกรสสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต แนนซี เพโลซี ได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีที่มุลเลอร์ยอมเข้าให้ปากคำต่อหน้าคณะกรรมาธิการสภาล่าง "ทางเรารู้สึกยินดีที่ประชาชนชาวอเมริกันจะได้ยินจากปากของที่ปรึกษาพิเศษ มุลเลอร์ ความมั่นคงของชาติเราตกอยู่ในอันตราย และประชาชนสมควรที่ต้องได้รับคำตอบ" รายงานจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
ทั้งนี้ที่ผ่านมาในฝั่งพรรคเดโมแครต รวมไปถึง จากตัวแทนลงชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2020 บางส่วนต้องการให้มีการเริ่มกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯออกจากตำแหน่ง แต่เพโลซีต้านทานแรงกดดันปฎิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องเหล่านั้น
วอชิงตันโพสต์กล่าวว่า ถึงแม้ทางมุลเลอร์จะยอมเข้าให้การแต่ทว่า ไม่เชื่อว่าเขาจะยอมตอบคำถามสำคัญของฝั่งเดโมแครตที่ว่า ตัวมุลเลอร์หรือทีมงานคิดว่ามีหลักฐานเพียงพอในการสั่งฟ้องทรัมป์ในคดีขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ หากว่าเขาไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ด้านแกนนำสว.พรรครีพับลิกันคนสำคัญ ลินด์ซีย์ แกรม (Lindsey Graham) ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงการเข้าให้ปากคำของมุลเลอร์ในคืนวันอังคาร(25) ผ่านรายการโทรทัศน์ ฮานนิตา (Hannity) ของนักจัดชื่อดังช่องฟ็อกซ์ นิวส์ว่า เขาเชื่อมั่นว่า การให้การของโรเบิร์ต มุลเลอร์ จะไม่แตกต่างจากที่ระบุไว้ในรายงาน และชี้ว่า ข้อสรุปไม่สามารถที่จะเปลี่ยนได้ที่ว่าไม่มีการสมคบคิด และนั่นเป็นจุดกำเนิดของเรื่องทั้งหมด
และยังกล่าวต่อถึงประเด็นการขัดขวางทางกระบวนการทางยุติธรรม โดย สว.แกรมกล่าวว่า ไม่ว่ามุลเลอร์จะให้การอย่างไร มันจะยังคงเป็นการยากที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับทรัมป์สำหรับการขัดขวางกรระบวนการทางยุติธรรม "ไม่มีใครบนโลกใบนี้สามารถทำให้เกิดคดีขัดขวางกระบวนการทางยุติธรรมโดยใช้ข้อเท็จจริงเหล่านี้" แกรมกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์