เอเจนซีส์ - กระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงตอบโต้สหรัฐฯวันอังคาร(25 มิ.ย)ว่า การตัดสินใจของวอชิงตันในการสั่งคว่ำบาตรผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยาโตเลาะห์ อาลี คาเมเนอี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆเท่ากับปิดช่องทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศถาวร พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลสปรัฐฯชุดประธานาธิบดีทรัมป์ทำลายสันติภาพและความมั่นคง
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(25 มิ.ย)ว่า อับบาส เมาซาวี (Abbas Mousavi) โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ในวันอังคาร(25)ว่า
“การประกาศบังคับคว่ำบาตรที่ใช้การไม่ได้ต่อผู้นำสูงสุดของอิหร่าน(อยาโตเลาะห์ อาลี คาเมเนอี)และผู้บัญชาการด้านการทูตของอิหร่าน(รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ) เท่าเป็นการปิดช่องทางการทูตถาวร”
และเขาเสริมต่อว่า
“รัฐบาลทรัมป์ที่สิ้นหวังกำลังทำลายเครื่องมือระหว่างประเทศสำหรับการรักษาสันติภาพโลกและความมั่นคง”
ทั้งนี้ในวันจันทร์(24) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งคว่ำบาตรเป้าหมายไปที่ตัวของผู้นำสูงสุดอิหร่าน "อยาโตเลาะห์ อาลี คาเมเนอี" และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านคนอื่นๆ ถือเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายในการเพิ่มแรงกดดันต่อเตหะรานหลังกองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่านได้ยิงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯตกใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ
อัลญะซีเราะฮ์รายงานเพิ่มเติมว่า ที่ปรึกษาความมั่นคงประจำทำเนียบขาว จอห์น อาร์. โบลตัน ได้ออกมาแสดงความเห็นในเช้าวันอังคาร(25)ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์พร้อมเปิดกว้างสำหรับการเจรจา และ “สิ่งที่อิหร่านต้องทำคือ การเดินผ่านเข้าประตูที่เปิดรอไว้”
โบลตันแถลงในเมืองเยรูซาเลม อิสราเอลว่า สหรัฐฯต้องการการพูดคุยกับเตหะรานเพื่อต้องการทำลายโครงการอาวุธนิวเคลียร์อิหร่านอย่างสมบูรณ์และสามารถพิสูจน์ได้ ระบบขีปนาวุธ การสนับสนุนของเตหะรานต่อการก่อการร้ายระหว่างประเทศ และพฤติกรรมที่มีจิดคิดร้ายทั่วโลก
โบลตันยังชี้ว่า กลุ่มทูตสหรัฐฯในเวลานี้อยู่ภายในภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อหาหนทางสันติภาพ ในการตอบโต้กับความเงียบของอิหร่าน
สื่อเยรูซาเลมโพสต์ของอิสราเอลรายงานว่า ในวันอังคาร(25) โบลตันได้พบกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล เมอีร์ เบน-ชาบบาต(Meir Ben-Shabbat) และ นิโคไล พาทรูเชฟ (Nikolai Patrushev) ที่ปรึกษาความมั่นแห่งชาติรัสเซีย
สื่อกาตาร์ชี้ว่า เชื่อว่าการประกาศคว่ำบาตรต่อผู้นำสูงสุดอิหร่านนั้นน่าจะไม่ค่อยส่งผล "เป็นเพราะ อยาโตเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศนานร่วม 30 ปีนับตั้งแต่เขาได้ขึ้นเป็นผู้นำในปี 1989 และในครั้งสุดท้ายที่เขาเดินทางออกนอกอิหร่านเพื่อไปเยือนจีนเกิดขึ้นในเดือนเมษายน ปี1989
แต่การประกาศคว่ำบาตรต่อรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกลายเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจขึ้นภายในประเทศอิหร่าน อัลญะซีเราะฮ์ชี้ว่าเป็นเพราะ ซารีฟนั้นเคยพำนักอยู่ในสหรัฐฯ และเขาถูกรู้จักในฐานะประเทศอิหร่าน