เอเอฟพี - ศาลกรุงปารีสเริ่มเปิดการไต่สวนวันนี้ (24 มิ.ย.) กรณีครอบครัวผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน ‘วันทูโก’ บัทเจ็ทแอร์ไลน์รายแรกของไทย จากอุบัติเหตุเครื่องบินลื่นไถลตกรันเวย์ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปี 2007 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 90 ราย และเกือบ 2 ใน 3 เป็นชาวต่างชาติ
ญาติเหยื่อชาวฝรั่งเศส 9 คนและผู้รอดชีวิตอีก 1 คนได้ยื่นคำร้องกล่าวโทษสายการบินซึ่งปิดตัวไปแล้ว โดยอ้างถึงปัจจัยต่างๆ ซึ่งเป็นต้นตอของอุบัติเหตุครั้งนี้ เช่น ความเหนื่อยล้าของนักบิน และบันทึกข้อมูลการบินที่ผิดพลาด
โศกนาฏกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ปี 2007 โดยเครื่องบินวันทูโกซึ่งมีผู้โดยสาร 123 คน และลูกเรืออีก 7 คน ได้ลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับแนวกั้นของสนามบินภูเก็ตจนเกิดระเบิดไฟลุกท่วม หลังกัปตันพยายามนำเครื่องลงจอดท่ามกลางพายุฝน
ครอบครัวผู้เสียชีวิตกล่าวโทษสายการบินว่าจงใจปกปิดข้อบกพร่องหลายอย่างที่นำไปสู่อุบัติเหตุครั้งนี้ โดยล่าสุดญาติเหยื่อชาวฝรั่งเศสได้ยื่นฟ้องนาย อุดม ตันติประสงค์ชัย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท วันทูโก จำกัด ในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยประมาท (manslaughter)
ประธานวันทูโกได้ออกมายอมรับในขณะนั้นว่า สายการบินมีส่วนต้องรับผิดชอบกับอุบัติเหตุทางอากาศครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปีของไทย แต่ถึงแม้จะมีการออกหมายจับสากล ทว่านาย อุดม กลับไม่เคยถูกควบคุมตัว และยังปฏิเสธที่จะเดินทางไปศาลตามหมายเรียก ซึ่งทำให้เป็นไปได้ว่าศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนลับหลังจำเลย
โศกนาฏกรรมเครื่องบินวันทูโกทำให้มีผู้โดยสารชาวไทยเสียชีวิตไป 33 ราย และชาวต่างชาติอีก 57 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากอังกฤษ อิสราเอล และฝรั่งเศส
“นี่ไม่ใช่เรื่องของเงินทอง” เจอราร์ด เบมบารง โจทก์ชาวฝรั่งเศสซึ่งสูญเสียน้องชายไปในอุบัติเหตุดังกล่าว ระบุ “เรารื้อฟื้นอุบัติเหตุที่ถูกลืมไปแล้วขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับการยอมรับว่าพวกเขาคือเหยื่อ มันไม่ใช่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันคืออุบัติเหตุที่รอวันจะเกิดขึ้น เพราะการดำเนินงานของสายการบินแห่งนี้”
สำนักงานการบินพลเรือนของไทยสรุปผลการสอบสวนว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดความผิดพลาดของมนุษย์ เนื่องจากกัปตันและนักบินผู้ช่วยตัดสินใจนำเครื่องลงจอดท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ยังพบว่านักบินทั้งสองมีจำนวนชั่วโมงบินต่อสัปดาห์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าและมีความเครียดสะสมเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ นำไปสู่การตอบสนองที่ผิดพลาดเมื่อเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน
แหล่งข่าวระบุว่า สายการบินยังยื่นเอกสารระบุจำนวนชั่วโมงบินของนักบินที่เป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน เพื่อปกปิดความผิดดังกล่าว
หลังผ่านเหตุการณ์มานานถึง 12 ปี ทีมสืบสวนฝรั่งเศสได้ออกมาเปิดเผยข้อบกพร่องหลายอย่างของสายการบินวันทูโก ทั้งในด้านการสรรหาบุคลากร การฝึกอบรม ตารางการทำงานของนักบิน และการบำรุงรักษาอากาศยาน
อดีตนักบินคนหนึ่งให้การต่อพนักงานสอบสวนว่า พวกเขาต้องทำงานเกินชั่วโมงบินที่กำหนดอยู่เป็นประจำ โดยบริษัทจ่ายเงินโบนัสพิเศษให้ ซึ่งถือว่าเป็น “วัฒนธรรมการก่ออาชญากรรมทางธุรกิจ” และ “ละเมิดมาตรฐานความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง”
ปัจจุบันทั้งวันทูโกและโอเรียนท์ไทยซึ่งเป็นสายการบินแม่ได้ปิดกิจการอย่างถาวรแล้ว