เอเอฟพี - สหรัฐฯเตรียมเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน ฐานล้มเหลวในการหยุดสนับสนุนทางการเงินแก่พวกก่อการร้าย ขู่คว่ำบาตรรอบใหม่หากว่าเตหะรานไม่ปฏิบัติตาม จากเสียงเตือนของสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังอเมริกาในวันศุกร์(21มิ.ย.)
ท่ามกลางความตึงเครียดที่ร้อนระอุขึ้น หลังอิหร่านยิงโดรนสหรัฐฯร่วง ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(21มิ.ย.)ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดูเหมือนจะส่งสัญญาณถึงจุดยืนที่เข้มข้นขึ้นบนทวิตเตอร์ โดยระบุว่า "มาตรการคว่ำบาตรกำลังก่อความเจ็บปวดและมีการเพิ่มเติมเมื่อคืนนี้"
อิหร่านต้องเผชิญแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยที่ผ่านมาทางกระทรวงการคลังอเมริกาได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทต่างๆและเจ้าหน้าที่หลายคน เพื่อบีบรีดไม่ให้พวกเขาเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลังทรัมป์ตัดสินใจถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่เจรจาโดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
ในการปราศรัยที่ฟลอริดา รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯบอกว่า "อิหร่านล้มเหลวอย่างจงใจในการจัดการการฟอกเงินอย่างเป็นระบบของพวกเขาและจัดการกับข้อบกพร่องต่างๆที่เปิดทางสนับสนุนเงินทุนแก่พวกก่อการร้าย" เขาบอกต่อว่า "คณะทำงานเฉพาะกิจนานาชาติจะกำหนดเส้นทางใหม่แก่ประเทศแห่งนี้ให้ปฏิบัติตามหรือไม่ก็ต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม"
คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force : FATF) ซึ่งประกอบด้วย 38 ชาติ ได้ระงับมาตรการที่กำหนดเล่นงานอิหร่าน แต่ในเดือนกุมภาพันธ์เตือนว่าเตหะรานจะอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น หากล้มเหวในการบังคับใช้แผนปฏิรูปตามคำสัญญาในเดือนนี้ เพื่อป้องกันการฟอกเงินและสนับสนุนทางการเงินแก่พวกก่อการร้าย
มนูชินบอกว่าทาง FATF อาจกลับมาใช้มาตรการลงโทษอีกรอบ "หากว่าอิหร่านไม่มีความคืบหน้า" และอาจจำเป็นต้องเพิ่มการกำกับดูแลตรวจสอบสาขาและบริษัทลูกของสถาบันทางการเงินต่างๆที่มีสำนักงานในอิหร่าน"