รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) เผยว่า เขาละทิ้งปฏิบัติการโจมตีทางทหารถล่มอิหร่านใน 10 นาทีสุดท้าย เพราะว่าการตอบโต้ดังกล่าวต่อกรณีเตหะรานสอยโดรนสอดแนมไร้คนขับของอเมริกา จะเข่นฆ่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก ซึ่งไม่เท่าเทียมกัน
ทรัมป์เขียนลงบนทวิตเตอร์ในตอนเช้าวันศุกร์ (21 มิ.ย.) ว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่กำหนดเล่นงานอิหร่านกำลังส่งผลกระทบและมีบทลงโทษเพิ่มเติมในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.) หลังเกิดเหตุการณ์โดรนของสหรัฐฯถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศของอิหร่าน
ผู้นำสหรัฐฯบอกว่า เพนตากอนได้เลือกที่ตั้ง 3 แห่งของอิหร่าน สำหรับโจมตีตอบโต้เหตุสอยโดรน แต่เขาได้รับแจ้งว่า ปฏิบัติการดังกล่าวอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 150 คน “10 นาทีก่อนการโจมตีผมสั่งหยุดมัน มันไม่เท่าเทียมกับการยิงตกโดรนไร้คนขับ ผมไม่รีบ” พร้อมชี้แจงว่า เขาได้รับแจ้งจากทหารระดับนายพลรายหนึ่ง ซึ่งคาดหมายว่า อาจมีผู้เสียชีวิตถึง 150 คน ในฝ่ายอิหร่าน ซึ่งสรุปได้ว่ามันเป็นมาตรการตอบโต้ที่ไม่สมส่วนกัน
ก่อนหน้านี้ ในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) พวกเจ้าหน้าที่บอกกับรอยเตอร์ ว่า เตหะรานได้รับสารจากทรัมป์เตือนว่าสหรัฐฯจวนที่จะโจมตีอิหร่านแล้ว พร้อมบอกว่าเขาคัดค้านสงครามและต้องการเจรจาในประเด็นต่างๆ มากมาย
ข่าวการส่งสารเตือนของทรัมป ซึ่งส่งผ่านโอมานเมื่อคืนที่ผ่านมา มีขึ้นไม่นานหลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า ทรัมป์ สั่งยกเลิกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเรดาร์ และฐานยิงขีปนาวุธของอิหร่านในช่วงนาทีท้ายๆ
“ในสารของเขา ทรัมป์ บอกว่า เขาคัดค้านการทำสงครามกับอิหร่าน และต้องการเจรจากับเตหะรานในประเด็นที่หลากหลาย” เจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกกับรอยเตอร์ “เขาให้เวลาเราตอบกลับแค่ช่วงสั้นๆ แต่อิหร่านตอบกลับในทันทีว่ามันขึ้นอยู่กับท่านผู้นำสูงสุด (อยาโตเลาะห์ อาลี) คาเมเนอี ที่จะเป็นคนตัดสินใจในเรื่องนี้”
รอยเตอร๋อ้างเจ้าหน้าที่อิหร่านระบุว่า “เราเคยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่าท่านผู้นำไม่เห็นด้วยกับการเจรจาใดๆ แต่จะมีการนำสารไปถ่ายทอดให้ท่าน เพื่อให้ท่านเป็นคนตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม เราบอกกับเจ้าหน้าที่โอมานไปแล้วว่าการโจมตีใดๆ ต่ออิหร่าน จะก่อผลลัพธ์ที่ตามมาทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติ”
อย่างไรก็ตามต่อมา เคฟวาน โคสราวี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่านให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อิหร่าน ปฏิเสธรายงานข่าวของรอยเตอร์ โดยระบุว่า "สหรัฐฯไม่ได้ส่งสารใดๆมาเลย"
คาเมเนอี ซึ่งเป็นผู้ชี้ขาดในประเด็นกิจการรัฐทั้งหมดไปปฏิเสธเจรจาใดๆ กับสหรัฐฯ หากว่าเตหะรานยังคงอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร
เหตุอิหร่านยิงโดรนของสหรัฐฯ มีขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับเตหะราน ร้อนระอุถึงขีดสุด จากเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันหลายระลอกในอ่าวเปอร์เซีย ที่อเมริกากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน แม้เตหะรานปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
ความตึงเครียดปะทุขึ้นนับตั้งแต่ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มหาอำนาจโลกทำไว้กับอิหร่านปี 2015 และสถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกเมื่อวอชิงตันกลับมาคว่ำบาตรรอบใหม่เล็งเป้าเล่นงานการค้าน้ำมันอันสำคัญของเตหะราน ในขณะที่อิหร่านย้ำคำขู่ในสัปดาห์นี้ว่าจะละเมิดข้อจำกัดด้านกิจกรรมทางนิวเคลียร์ที่กำหนดไว้โดยข้อตกลงดังกล่าว
วอชิงตันระบุเมื่อวันจันทร์ว่า จะส่งกองกำลังเพิ่มเข้าไปอีกราว 1,000 นาย พร้อมด้วยขีปนาวุธแพทริออท และอากาศยานสอดแนมไร้คนขับ (โดรน) ไปยังตะวันออกกลาง ไปสมทบกับทหารอีก 1,500 นาย ที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม ช่วงที่มีการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน โดยอ้างว่าเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน
เมื่อวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนละทิ้งการโจมตี ทรัมป์เตือนว่าอิหร่านทำผิดพลาดใหญ่หลวง แต่จากนั้นไม่นานก็ปรับท่าทีอย่างรวดเร็ว โดยบอกว่าเขาเชื่อว่าเหตุยิงโดรนของสหรัฐฯอาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
