xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ โชว์ ‘เศษระเบิด’ จากเรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่น-อ้างเห็นได้ชัดว่าผลิตใน ‘อิหร่าน’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - สหรัฐฯ เผยภาพเศษระเบิดลิมเพ็ทไมน์ซึ่งอ้างว่ามาจากเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติญี่ปุ่นที่ถูกโจมตีในอ่าวโอมานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมชี้ว่ามีลักษณะคล้ายระเบิดที่ผลิตในอิหร่าน ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสและหน่วยข่าวกรองอเมริกันยืนยันว่ามีเรืออิหร่านหลายลำแล่นเข้าไปใกล้เรือบรรทุกน้ำมัน โคคุกะ เคอเรเจิส และเรือ ฟรอนท์ อัลแทร์ ก่อนที่จะเกิดการระเบิดซึ่งทำให้ตัวเรือเสียหายอย่างหนัก

กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้นำเศษระเบิดลิมเพ็ทไมน์และแม่เหล็กที่อ้างว่าพบในเรือโคกุกะมาแสดงต่อสื่อมวลชนที่เมืองท่าฟูไจราห์ (Fujairah) ของยูเออีเมื่อวันพุธ (19 มิ.ย.) โดยก่อนหน้านั้นก็ได้เปิดเผยภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นเรือตรวจการณ์ของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) เข้าไปถอดระเบิดที่ไม่ทำงานออกจากเรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่น

“เห็นได้ชัดว่าระเบิดลิมเพ็ทไมน์ที่ใช้ในการโจมตีครั้งนี้มีลักษณะคล้ายกับระเบิดที่อิหร่านเคยนำมาแสดงระหว่างพิธีสวนสนามกองทัพ” ฌอน คีโด ผู้บัญชาการหน่วยประดาน้ำเก็บกู้ระเบิดและกู้ภัยในสังกัดกองบัญชาการกลางกองทัพเรือสหรัฐฯ (NAVCENT) ให้สัมภาษณ์

ด้าน ไบรอัน ฮุก ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการอิหร่าน ก็ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสว่า “หน่วยข่าวกรองของเรายืนยันว่ามีเรืออิหร่านซึ่งปฏิบัติการอยู่ในน่านน้ำทั้งในและรอบๆ ช่องแคบฮอร์มุซเข้าไปใกล้เรือ โคคุกะ เคอร์เรเจิส และ เรือ ฟรอนท์ อัลแทร์ ระหว่างวันที่ 12-13 มิ.ย. ก่อนที่เรือทั้ง 2 ลำจะเกิดการระเบิด”

“กิจกรรมนี้สอดคล้องกับปฏิบัติการติดตั้งระเบิดลิมเพ็ทไมน์ลงบนเรือทั้ง 2 ลำ” ฮุก กล่าว พร้อมอ้างคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของ IRGC ว่าบุคลากรของหน่วย “กระทำภารกิจลุล่วงทั้ง 2 ครั้ง”

ผู้แทนสหรัฐฯ ไม่เปิดเผยว่าได้ข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่อิหร่านคนไหน เมื่อไหร่ และภารกิจ 2 ครั้งนั้นหมายถึงการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำใช่หรือไม่

อิหร่านยืนกรานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 2 ลำ รวมไปถึงกรณีเรืออีก 4 ลำซึ่งถูกโจมตีนอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อวันที่ 12 พ.ค.

ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญที่ใช้ขนส่งน้ำมันดิบจากตะวันออกลาง และยังกระพือความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านซึ่งมองหน้ากันไม่ติดอยู่แล้วหลังจากวอชิงตันถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 พร้อมรื้อฟื้นบทลงโทษทางเศรษฐกิจเพื่อปิดกั้นการส่งออกน้ำมันของเตหะราน

อิหร่านออกมาขู่ในสัปดาห์นี้ว่าจะผลิตยูเรเนียมสมรรถนะต่ำให้เกินกว่าเกณฑ์ควบคุม 300 กิโลกรัมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการสั่งเสริมกำลังทหารในตะวันออกกลางอีก 1,000 นาย นอกเหนือจากที่ได้ประกาศเพิ่มไปแล้ว 1,500 นายหลังเหตุวินาศกรรมเรือ 4 ลำเมื่อเดือน พ.ค.

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ย้ำว่า การเสริมทหารคราวนี้จะครอบคลุมถึงระบบขีปนาวุธแพทริออต และอากาศยานสอดแนมทั้งแบบมีคนขับและไร้คนขับ

ฝรั่งเศสและเยอรมนีระบุวานนี้ (19) ว่าจะพยายามยับยั้งไม่ให้ความขัดแย้งกับอิหร่านลุกลามบานปลาย แต่ก็ยอมรับว่าเวลาเหลือน้อยเต็มที และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะถึงขั้นเกิดสงคราม

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขู่เมื่อวันอังคาร (18) ว่าพร้อมจะใช้ปฏิบัติการทางทหารยับยั้งไม่ให้อิหร่านครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ หลังเตหะรานเริ่มส่งสัญญาณว่าจะละเมิดเกณฑ์ควบคุมปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ และเพิ่มความบริสุทธิ์ของวัสดุฟิสไซล์ให้สูงกว่าที่จำเป็นต่อการใช้ประโยชน์ในด้านพลเรือน

ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี ประกาศจะให้เวลาแก่ชาติยุโรปไม่เกินวันที่ 8 ก.ค. เพื่อออกมาตรการปกป้องเศรษฐกิจอิหร่านจากบทลงโทษของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์เอาไว้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น