เอเอฟพี - มอสโกประณาม "คำกล่าวหาที่ไม่มีมูล" โดยคณะสืบสวนนานาชาติ หลังจากในวันพุธ(19มิ.ย.) ผู้สืบสวนนานาชาติตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัย 4 คน ในนั้นรวมถึงพลเมืองรัสเซีย ฐานฆาตกรรม ถือเป็นบุคคลกลุ่มแรกที่ต้องเผชิญกระบวนการยุติกรรม ต่อกรณีเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงร่วงเหนือภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อปี 2014 คร่าชีวิตยกลำ 298 ศพ
"เป็นอีกครั้งที่ ฝ่ายรัสเซียถูกกล่าวหาโดยไม่มีมูลโดยสิ้นเชิง โดยมีเป้าหมายดิสเครดิตรัสเซียในสายตาประชาคมนานาชาติ" กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ อ้างถึงเหตุสอยเครื่องบินซึ่งกำลังเดินทางระหว่างอัมสเตอร์ดัมและกัวลาลัมเปอร์ ตอนที่ถูกยิงด้วยขีปนาวุธลูกหนึ่งขณะกำลังบินอยู่เหนือภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฎ
ในถ้อยแถลงระบุด้วยว่า มอสโกพร้อมมอบความช่วยเหลือทุกด้านแก่การสืบสวนตั้งแต่วันแรก แต่พวกเขากลับถูกกันออกจากการสืบสวน ขณะที่ข้อมูลที่ทางรัสเซียมอบให้ก็ถูกเพิกเฉย
ดมิทรี เมดเวเดฟ โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ว่า "ทัศนคติของเราต่อการสืบสวนนี้ก็คือ รัสเซียไม่มีโอกาสที่จะเข้าร่วมหรือแม้กระทั่งผ่านแนวคิด ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุการณ์น่าสลดนี้"
ในวันพุธ(19มิ.ย.) คณะสืบสวนนานาชาติที่นำโดยเนเธอร์แลนด์ออกหมายจับพลเมืองรัสเซีย 3 รายประกอบด้วยเซอร์เก ดูบินสกี , โอเลก ปูลาตอฟ , อิกอร์ กีร์คิน และ เลโอนิด คราเชนโก ชาวยูเครน ทั้งหมดต้องสงสัยว่ามีบทบาทในกลุ่มแบ่งแยกดินแดนสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์
การพิจารณาคดีชายทั้ง 4 คน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันในด้านการทหารและข่าวกรองจะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกพิจารณาคดีลับหลังจำเลยในเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากทั้งรัสเซียและยูเครนต่างห้ามการส่งตัวพลเมืองของตัวเองในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
เฟรด เวสเตอร์บีค อัยการเนเธอร์แลนด์ บอกว่าทั้ง 4 คนต้องรับผิดชอบฐานนำระบบขีปนาวุธบัคจากรัสเซียเข้าไปยังภาคตะวันออกของยูเครน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนกดปุ่มด้วยตนเอง "เราไม่ต้องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะว่ากฎหมายรัสเซียและยูเครนห้ามส่งตัวพลเมืองของพวกเขาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน แต่เราเรียกร้อกอีกครั้ง ขอความร่วมมือจากรัสเซีย คำถามมากมายของเรายังไม่ได้รับคำตอบ"
คณะสืบสวนชุดเดียวกันนี้เคยระบุเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 ว่าขีนาวุธบัคที่ยิงโดยเครื่องบินโบอิ้ง777นั้นมีแหล่งที่มาจากกองพลที่ 53 ของกองทัพรัสเซียซึ่งประจำการอยู่ในเมืองคูร์สก์
แต่รัสเซียโต้แย้งเมื่อปีที่แล้ว ว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวถูกยิงออกมาจากกองกำลังยูเครน พร้อมระบุว่าขีปนาวุธรุ่นนี้ถูกส่งเข้าไปในยูเครนตั้งแต่ยุคสมัยสหภาพโซเวียตแล้ว
คณะสืบสวนร่วม(JIT) ที่ร่วมสืบสวนเหตุการณ์นี้ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, เบลเยียม, มาเลเซีย, เนเธอร์แลนด์และยูเครน ซึ่งล้วนเป็นตัวแทนของประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดของโศกนาฏกรรมดังกล่าว
เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลีย กล่าวหารัสเซียอย่างเป็นทางการ ว่าต้องรับผิดชอบโศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตผู้โดยสารยกลำ ในนั้นเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ 196 คนและออสเตรเลีย 38 คน
ออสเตรเลียบอกว่าถ้อยแถลงในวันพุธ(19มิ.ย.) นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการมุ่งหน้าสู่เป้าหมายความยุติธรรม ส่วน เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้บอกว่า "มันเป็นหลักชัยที่สำคัญในความพยายามเปิดเผยความจริงทั้งหมด"
กระทรวงการต่างประเทศยูเครนเรียกร้องรัสเซียยอมรับว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลัง ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่าประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี หวังว่า "ทุกคนที่ถูกกล่าวโทษฐานฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ ทั้งเด็ก ผู้หญิงและผู้ชาย จะถูกดำเนินคดี"
