รอยเตอร์ - เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดีอาระเบียรายอื่นๆ ควรถูกสืบสวนต่อกรณี จามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์คนดังถูกฆาตกรรม เนื่องด้วยมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าพวกเขามีส่วนรับผิดชอบต่อการตายของคาช็อกกี ผู้สืบสวนด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติรายหนึ่งเผยแพร่รายงานในวันพุธ(19มิ.ย.)
อย่างไรก็ตาม อเดล อัล-จูเบอีร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ปฏิเสธรายงานของผู้สืบสวน โดยบอกว่า "ไม่มีอะไรใหม่" พร้อมเขียนต่อบนทวิตเตอร์ ว่า "รายงานของผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน มีเนื้อหาขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิงและมีข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลซึ่งท้าทายความน่าเชื่อถือของรายงาน"
เหตุฆาตกรรมคาช็อกกีก่อความสะอิดสะเอียนในวงกว้างและก่อความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของมกุฎราชกุมาร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นที่ชมเชยในโลกตะวันตก จากความพยายามผลักดันเปลี่ยนแปลงเชิงลึกต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงปฏิรูปภาษี, โครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆและความเคลื่อนไหวอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถ
แอกเนส คอลลามาร์ด ผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติในด้านการประหารชีวิตนอกระบบกฎหมาย เรียกร้องประเทศต่างๆใช้ขอบเขตอำนาจสากลสำหรับสิ่งที่เธอเรียกว่าเป็นอาชญากรรมข้ามชาติและทำการจับกุมหากมีข้อพิสูจน์แล้วว่าบุคคลนั้นๆมีส่วนในการก่ออาชญากรรม
ในรายงานบนพื้นฐานของการสืบสวน 6 เดือน คอลลามาร์ด ยังเรียกร้องประเทศต่างๆขยายขอบเขตการคว่ำบาตรให้ครอบคลุมถึงตัวมกุฎราชกุมาร ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย และทรัพย์สินของพระองค์ในต่างแดน จนกว่าพระองค์จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
คาช็อกกี นักวิจารณ์ตัวยงของมกุฎราชกุมารและคอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ ถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม โดยเขาเดินทางไปเพื่อรับเอกสารสำหรับการแต่งงาน
อัยการซาอุดีอาระเบียระบุว่าศพของเขาถูกหั่นเป็นชิ้นๆและนำออกจากสถานกงสุล แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครพบชิ้นส่วนศพของเขา
"สิ่งที่จำเป็นต้องสืบสวนคือขอบเขตที่ว่าเจ้าชายทรงรู้หรือน่าจะรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคาช็อกกี พระองค์ทรงยุยงทั้งทางตรงหรือทางอ้อมให้มีการฆ่าหรือไม่ พระองค์ทรงสามารถขัดขวางการฆาตกรรมตอนที่ภารกิจเริ่มขึ้นหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ทำแบบนั้น" คอลลามาร์ดบอกกับผู้สื่อข่าว
"ข้อสรุปของผู้รายงานพิเศษคือคาช็อกกีเป็นเหยื่อของการประหารอย่างรอบคอบและไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า การฆ่านอกระบบกฎหมายที่ทางรัฐซาอุดีอาระเบียต้องรับผิดชอบภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ" รายงานของคอลลามาร์ดระบุ
อัยการซาอุดีอาระเบียฟ้องดำเนินคดีกับ 11 ผู้ต้องสงสัยซึ่งไม่เปิดเผยชือในเดือนพฤศจิกายน ในนั้น 5 คน มีสิทธิ์เจอโทษประหารชีวิตตามข้อกล่าวหาบงการและลงมือก่ออาชญากรรม
คอลลามาร์ด บอกว่าซาอุดีอาระเบียควรระงับการพิจารณาคดีผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ อ้างถึงความกังวลว่ามันเป็นการพิจารณาคดีแบบลับและมีความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นกระบวนการยุติธรรมที่ล้มเหลว พร้อมเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนคดีอาญาระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ
ซีไอเอและประเทศตะวันตกบางชาติเชื่อว่ามกุฎราชกุมารเป็นผู้ออกคำสั่งสังหาร ความกล่าวหาที่ทางเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธ
รายงานของสหประชาชาติได้เผยแพร่สิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นบทตัดทอนการสนทนาภายใต้สถานกงสุล ไม่นานก่อนที่ คาช็อกกี จะเดินทางมาถึงตัวอาคารและช่วงนาทีท้ายๆในชีวิตของเขา ซึ่งได้ยินเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งกำลังพูดเกี่ยวกับการหั่นศพเป็นชิ้นๆ
ข้อมูลเหล่านี้มาจากเทปบันทึกต่างๆและงานนิติเวชศาสตร์ของคณะสืบสวนตุรกี รวมถึงข้อมูลจากการพิจารณาคดีพวกผู้ต้องสงสัยในซาอุดีอาระเบีย รายงานระบุ อย่างไรก็ตาม คอลลามาร์ด บอกว่าเธอไม่ขอสรุปแบบ 100% ในสิ่งที่คณะสืบสวนบอกว่าเป็นเสียงเลื่อยระหว่างปฏิบัติการหั่นศพ
"จากการประเมินเทปบันทึกเสียงต่างๆโดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองในตุรกีและประเทศอื่นๆบ่งชี้ว่า คาช็อกกี น่าจะถูกฉีดยาระงับประสาท จากนั้นก็ใช้ถุงพลาสติกรัดจนหายใจไม่ออก" รายงานระบุ
คอลลามาร์ด เดินทางไปตุรกีเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมกับทีมงานนิติเวชศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย และบอกว่าเธอได้รับหลักฐานมาจากเจ้าหน้าที่ตุรกี "มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ มีเหตุผลอันควรที่ต้องสืบสวนเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ระดับสูงซาอุดีอาระเบียที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ในนั้นรวมถึงมกุฎราชกุมาร"
เธอระบุต่อว่า "การสืบสวนด้านมนุษยชนครั้งนี้ได้โชว์หลักฐานน่าเชื่อถืออย่างพอเพียงว่าความเกี่ยวข้องของมกุฎราชกุมารจำเป็นต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม" พร้อมเรียกร้องให้เลขาธิการสหประชาชาติจัดคณะสืบสวนนานาชาติขึ้นมา