รอยเตอร์ - แพทริก แชนาแฮน รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ตัดสินใจยื่นใบลาออกและถอนตัวจากการรับพิจารณาคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แจ้งข่าวการลาออกของแชนาแฮน ผ่านทางทวิตเตอร์ ขณะที่เจ้าตัวให้เหตุผลว่าต้องการปกป้องบุตรทั้ง 3 คนไม่ให้เผชิญบาดแผลทางด้านจิตใจจากปัญหาภายในครอบครัวอีก
“เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สถานการณ์อันเจ็บปวดร้าวลึกในครอบครัวเมื่อนานมาแล้วกำลังถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่” แชนาแฮน ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารโบอิ้ง เปิดใจในถ้อยแถลง
ทรัมป์ ประกาศเสนอชื่อ มาร์ก เอสเปอร์ (Mark Esper) เลขานุการกองทัพสหรัฐฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการบอสเพนตากอนต่อจากแชนาแฮน และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตั้งใจจะเสนอชื่ออดีตซีอีโอเรย์ธีออนรายนี้ให้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ด้วย
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า เอสเปอร์ จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมในวันจันทร์หน้า (23)
แชนาแฮน วัย 56 ปี เพิ่งได้รับมอบหมายให้มาคุมเพนตากอนเมื่อเดือน ม.ค. หลังจากที่อดีตรัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส ยื่นใบลาออกเพราะขัดแย้งกับ ทรัมป์ ในเรื่องนโยบาย
การจากไปของแชนาแฮน ทำให้สหรัฐฯ ต้องเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่พลเรือนสูงสุดของเพนตากอนอย่างกะทันหันเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 6 เดือน
มีรายงานจากยูเอสเอทูเดย์ว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) กำลังตรวจสอบคดีทะเลาะวิวาทระหว่าง แชนาแฮน กับอดีตภรรยาเมื่อ 9 ปีก่อน ขณะที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า บุตรชายวัยรุ่นของแชนาแฮน เคยใช้ไม้เบสบอลทำร้ายมารดาเมื่อปี 2011 จนเธอนอนหมดสติจมกองเลือด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากครอบครัวแชนาแฮนได้แยกกันอยู่แล้ว
แชนาแฮน นับว่ามีบทบาทสำคัญในช่วงเวลาที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางกำลังตึงเครียดจากเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวโทษว่าเป็นฝีมืออิหร่าน ล่าสุดเขาก็เป็นคนประกาศเมื่อวันจันทร์ (17) ว่าสหรัฐฯ จะเสริมทหารในตะวันออกกลางเพิ่มอีก 1,000 นายเพื่อรับมือภัยคุกคามจากเตหะราน