เอเจนซีส์ - เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ยคาดว่า คำสั่งแบนสหรัฐฯจะทำให้รายได้บริษัทลดลงถึง 30 พันล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี ทำให้การเติบโตของบริษัทต้องถูกกระทบครั้งใหญ่
บลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจรายงานวันนี้(17 มิ.ย)ว่า ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทหัวเว่ย "เหริน เจิ้งเฟย" (Ren Zhengfei) ออกมาแถลงล่าสุดในวันจันทร์(17)ถึงสถานการณ์บริษัทและผลกระทบต่อบริษัทที่มีต่อมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
บลูมเบิร์กชี้ว่า ผลจากคำสั่งแบนของรัฐบาลสหรัฐฯทำให้ยอดขายของหัวเว่ยไม่ขยับ ยังคงอยู่ที่ 1 แสนล้านดอลลาร์ปี 2019 และปี 2020 โดยยอดการเติบโตของบริษัทจะลดลงถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปีจากการที่ทางบริษัทไม่สามารถสั่งซื้อเทคโนโลยีจากสหรัฐฯได้
แต่ถึงยอดการเติบโตจะกระทบแต่ทางหัวเว่ยจะยังคงไม่ปรับลดงบสำหรับด้านการวิจัยและการพัฒนาของตัวเอง หลีกเลี่ยงการเลิกจ้าง หรือการนำทรัพย์สินออกมาเร่ขายครั้งใหญ่
เหริน ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย ในวันจันทร์(17)กล่าวในวงสนทนาโดยเขาแสดงความแปลกใจต่อขอบเขตที่วอชิงตันได้เข้าโจมตีต่อบริษัทของเขา ซึ่งหัวเว่ยถูกกล่าวว่าได้เตรียมการสำหรับการตกที่มากถึง 60% ต่อยอดขายโทรศัพท์มือถือในต่างแดน เป็นผลมาจากบริษัทกูเกิลได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับหัวเว่ย ซึ่งมีบริการระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ และแอป ไปจนถึง GMAIL และแผนที่กูเกิล
“เราไม่คาดว่าสหรัฐฯจะมุ่งมั่นในการโจมตีหัวเว่ย ทางเราไม่เคยคาดมาก่อนว่า สหรัฐฯจะโจมตีซัพพลายเชนของบริษัทแบบเป็นวงกว้าง รวมไปถึงการที่ทางเราจะออกไปร่วมกับองค์ระหว่างประเทศ” ผู้บริหารสูงสุดของหัวเว่ยที่ให้สัมภาษณ์จากเมืองเซินเจิ้นกล่าว และเสริมต่อว่า “ซึ่งนั่นจะส่งผลทำให้รายได้ในปีนี้และปีหน้าอยู่ที่ 1แสนล้านดอลลาร์”
สื่อธุรกิจชี้ว่า ในสหรัฐฯมีการสงสัยว่า หัวเว่ยได้ให้ความช่วยเหลือต่อปักกิ่งในการลอบทำจารกรรมลับผลักดันความมุ่งมั่นของจีนที่ต้องการจะเป็นเจ้าทางด้านเทคโนโลยีของโลก ซึ่งถูกกล่าวหามานานหลายปีสำหรับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาที่ถูกระบุในการฟ้องร้องทางกฎหมายของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังของสหรัฐฯตั้งแต่ ซิสโก โมโตโรลา ไปจนถึง T Mobile แต่เหรินได้หัวเราะต่อคำกล่าวเหล่านี้
เหรินให้สัมภาษณ์ต่อว่า “ทางเราไม่ได้คาดมาก่อนต่อความเสียหายว่าจะร้ายแรงมากขนาดนี้ พวกเรามีการเตรียมการในระดับหนึ่ง เหมือนเช่นเครื่องบินที่ได้รับความเสียหาย เหมือนที่ผมได้เคยกล่าวไว้ ทางเราได้แต่ปกป้องเครื่องยนต์และถังเชื้อเพลิงไว้ แต่ล้มเหลวในการปกป้องส่วนอื่นๆ”
ซึ่งเมื่อวานนี้(17) เหนกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่า เขาไม่ได้แอบติดตั้งประตูหลังในอุปกรณ์ของหัวเว่ย โดยผู้ก่อตั้งหัวเว่ยกล่าวในตอนท้ายว่า “พวกเราจะเกิดใหม่ภายในปี 2021”