เอเจนซีส์ - สเปนกลายเป็นหนึ่งในชาติยุโรปแรกๆที่เปิดใช้ระบบเครือข่าย 5G หลังบริษัท โวดาโฟน สเปนได้เริ่มการใหล้บริการใน 15 เมืองทั่วประเทศ รวมถึงกรุงมาดริด และบาร์เซโลนา เป็นความร่วมมือระหว่างสเปนและบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน หัวเว่ย ที่ติดแบล็กลิสต์ของประธานาธิบดีทรัมป์
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ว่า บริษัทโวดาโฟน สเปน (Vodafone Spain) กลายเป็นบริษัทผู้ให้บริการมือถือรายแรกที่เปิดใช้ระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่มีความเร็วที่สุดในเวลานี้ในวันเสาร์ (15) ซึ่งผู้ใช้บริการได้รับการรับประกันว่าจะสามารถดาวโหลดได้ด้วยความเร็วสูงสุด 1 กิ๊กต่อวินาทีทีเดียว
นอกเหนือจากกรุงมาดริด และเมืองเอกของแคว้นที่ปกครองตนเอง เช่น บาร์เซโลนา แยังพบว่าโวดาโฟน สเปนยังเปิดระบบเครือข่าย 5G ครอบคลุมไปถึง บาเลนเซีย (Valencia) มาลากา (Malaga) เซบิยา(Seville) ซาราโกซา (Zaragoza) ซาน เซบาสเตียน (San Sebastian) บิลบาโอ (Bilbao) วิคตอเรีย( Vitoria( ลา คอรูนา( La Coruna) บีโก(Vigo) กีฮง(Gijon) ปัมโพลนา(Pamplona) ซานตันเดอร์ (Santander) และ โลโกรเนีย(Logrono)
ทั้งนี้พบว่าโวดาโฟน สเปน ใช้อุปกรณ์ของทั้งจากทั้งบริษัทอีริคสันของสวีเดน และหัวเว่ยของจีนซึ่งถูกรัฐบาลสหรัฐฯแบนในบัญชีแบล็กลิสต์
ก่อนหน้าสเปนพบว่ามี 2 ประเทศจากยุโรปที่เปิดใช้ระบบเครือข่าย 5G ของหัวเว่ยไปแล้ว คือ สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ แต่ทางวอชิงตันได้พยายามผลักดันให้ชาติพันธมิตรยุติการใช้โดยอ้างไปถึงเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นหลัก แต่ทว่าสมาชิกรัฐสภาอังกฤษไม่ได้สั่งแบนหัวเว่ยจากการเข้าร่วมระบบเครือข่าย 5G ของอังกฤษ แต่ทางผู้ให้บริการมือถือ EE และโวดาโฟนในอังกฤษยอมถอดหัวเว่ยอออกไปจากแผนการเปิดใช้ระบบเครือข่ายแห่งอนาคต
ต่างจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมสวิส ซันไรซ์ (Sunrise ) ได้ประกาศเปิดตัวโทรศัพท์มือถือระบบ 5G ในความร่วมมือทางหุ้นส่วนกับหัวเว่ย
ประธานบริหารโวดาโฟน นิค รีด (Nick Read) ก่อนหน้าได้ออกมาเตือนถึงการแบนหัวเว่ยออกจากระบบเครือข่าย 5G ของยุโรปจะส่งผลร้ายต่อบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและผู้บริโภค รวมไปถึงจะทำให้ต้องล่าช้าในการเปิดใช้ออกไปถึง 2 ปี