ผู้นำอิหร่านขู่แหกข้อตกลงนิวเคลียร์อีก หากไม่เห็น “สัญญาณเชิงบวก”

รอยเตอร์ – อิหร่านจะหยุดปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์อีกครั้ง หากผู้ลงนามรายอื่นๆ ไม่แสดงให้เห็น “สัญญาณเชิงบวก” ประธานาธิบดีอิหร่าน บอกในที่ประชุมผู้นพรัสเซีย จีน และชาติเอเชียรายอื่นๆ ในทาจิกิสถาน

เมื่อเดือนพฤษภาคม อิหร่านหยุดปฏิบัติตามบางข้อผูกมัดในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ตกลงกับกลุ่มมหาอำนาจโลก หนึ่งปีหลังจากสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงและเพิ่มการคว่ำบาตร

เมื่อเดือนพฤษภาคม เตหะราน ระบุว่า อิหร่านจะเริ่มเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในระดับสูงยิ่งขึ้น หากมหาอำนาจโลกไม่ปกป้องเศรษฐกิจจากากรคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ภายใน 60 วัน

“อิหร่านไม่อาจยึดมั่นข้อตกลงนี้เพียงฝ่ายเดียว” ประธานาธิบดี ฮัสซัน โรฮานี บอกในการประชุมว่าด้วยมาตรสร้างปฏิสัมพันธ์และความเชื่อมั่นในเอเชีย (Conference on Interaction and Confidence Building Measures in Asia)

“มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกฝ่ายของข้อตกลงนี้ต้องช่วยกอบกู้มัน” เขากล่าว และเสริมว่า อิหร่านจำเป็นต้องเห็น “สัญญาณเชิงบวก” จากผู้ร่วมลงนามในข้อตกลงนี้ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย จีน อังกฤษ และเยอรมนี

เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่าอิหร่านจะดำเนินการอย่างไร หรือบอกว่า อะไรคือสัญญาณเชิงบวกที่เตหะรานต้องการเห็น

ฝรั่งเศสและผู้ร่วมลงนามรายอื่นๆ ในข้อตกลงนี้ที่มีเป้าหมายเพื่อควบคุมความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน กล่าวว่า พวกเขาต้องการรักษามันไว้ แต่บริษัทในประเทศเหล่านี้จำนวนมากยกเลิกข้อตกลงกับเตหะราน ภายใต้แรงกดดันทางการเงินจากสหรัฐฯ

มหาอำนาจตะวันตกกล่าวหาอิหร่านพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ข้อกล่าวหาที่เตหะรานปฏิเสธว่า พวกเขาต้องการเพียงแค่เทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อวัตถุระสงค์ทางสันติ

โรฮานีไม่ได้พูดถึงการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันสองแห่งในอ่าวโอมานในสัปดาห์นี้ซึ่งวอชิงตันโทษว่าเป็นความผิดของเตหะราน ก่อให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการเผชิญหน้าครั้งใหม่ อิหร่านปฏิเสธว่าไม่มีบทบาทในการโจมตีครั้งนี้