เอเอฟพี - สหรัฐฯ ออกมาประท้วงวานนี้ (14 มิ.ย.) กรณีรองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายต่อต้านก่อการร้ายเดินทางไปเยือนเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน โดยชี้ว่าเป็นการกระทำที่ “ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” และอาจถูกปักกิ่งใช้อ้างความชอบธรรมในการเดินหน้ากดขี่ชาวมุสลิมกลุ่มน้อยในประเทศต่อไป
องค์การสหประชาชาติแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (13) ว่า วลาดิมีร์ โวรอนคอฟ รองเลขาธิการฝ่ายต่อต้านก่อการร้าย อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจในแดนมังกร ซึ่งแหล่งข่าวในยูเอ็นระบุว่าจะมีการไปเยือนซินเจียงด้วย
ประชากรราว 1 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอุยกูร์และมุสลิมกลุ่มน้อยอื่นๆ ถูกทางการจีนส่งไปเข้าค่ายกักกัน ซึ่งปักกิ่งเลี่ยงไปใช้คำว่า ‘ศูนย์อบรมอาชีพ’ แทน และอ้างว่ามาตรการนี้จำเป็นต่อการสกัดกั้นลัทธิหัวรุนแรง
จอห์น ซัลลิแวน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเมื่อวานนี้ (14) เพื่อ “แสดงความกังวลอย่างยิ่ง”
“การเยือนครั้งนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เมื่อคำนึงถึงมาตรการกดขี่ที่จีนกระทำต่อชาวอุยกูร์, คนเชื้อสายคาซัค และชาวมุสลิมกลุ่มอื่นๆ ในซินเจียง” มอร์แกน ออร์เตกัส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง
ซัลลิแวน บอกกับเลขาฯ ยูเอ็นว่า “ปักกิ่งยังคงอ้างว่าแคมเปญกดขี่ชาวอุยกูร์และมุสลิมกลุ่มน้อยอื่นๆ เป็นปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายที่มีความชอบธรรม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่”
“เจ้าหน้าที่ต่อต้านก่อการร้ายระดับสูงสุดของยูเอ็นกำลังทำให้ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือขององค์กรในด้านการต่อต้านก่อการร้ายและสิทธิมนุษยชนต้องมัวหมอง เพราะไปให้เครดิตกับข้ออ้างจอมปลอมเหล่านี้”
มิเชลล์ บาเชเลต ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็น ได้ทำเรื่องขออนุญาตส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปสืบหาความจริงในซินเจียงเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่ได้รับคำตอบจากจีน
เฉิน ซู เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็นคนใหม่ ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (13) ว่า ปักกิ่งจะอนุญาตให้ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นเดินทางเข้าไปยังซินเจียงได้ก็ต่อเมื่อ “มีช่วงเวลาที่สะดวกกันทั้ง 2 ฝ่าย”