รอยเตอร์ - กองทัพสหรัฐฯ เผยคลิปวิดีโอที่อ้างว่าบันทึกไว้ได้ขณะที่เรือของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) เข้าไปปลดกับระเบิดที่ไม่ทำงานออกจากด้านข้างเรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่นซึ่งถูกโจมตีในอ่าวโอมานเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเตหะรานอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการโจมตีซึ่งสร้างความปั่นป่วนต่อการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง
กองบัญชาการกลางกองทัพสหรัฐฯ ยังเผยแพร่ภาพถ่ายสิ่งที่ดูคล้ายกับระเบิดถูกติดด้วยแม่เหล็กไว้ที่ข้างเรือ ก่อนที่มันจะถูกเคลื่อนย้ายออกไปในวันเดียวกัน
โดยปกติแล้วภาพเหล่านี้มักจะถูกเก็บเป็นข้อมูลชั้นความลับ แต่การที่สหรัฐฯ นำออกเผยแพร่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะทำให้ประชาคมโลกเชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีเรือ โคคุกะ เคอเรเจิส (Kokuka Courageous) ของญี่ปุ่น และเรือ ฟรอนท์ อัลแทร์ (Front Altair) สัญชาตินอร์เวย์
เรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 2 ลำเกิดเพลิงลุกไหม้จากการระเบิด ทำให้ลูกเรือต้องสละเรือและปล่อยให้มันลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลระหว่างรัฐอ่าวอาหรับกับอิหร่าน
บิลล์ เออร์เบิน โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ระบุว่า เรือของ IRGC ถูกตรวจพบว่าล่องเข้าไปใกล้เรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่นเมื่อราวๆ 16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น
“มันถูกจับตาและบันทึกภาพขณะที่กำลังปลดระเบิดลิมเพ็ทไมน์ (limpet mine) ออกจากข้างลำตัวเรือ โคคุกะ เคอเรเจิส” เออร์เบิน ระบุในถ้อยแถลง
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 4% ทันทีที่มีข่าวเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันใกล้ทางเข้าช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งอันสำคัญยิ่งสำหรับซาอุดีอาระเบียและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆในอ่าวเปอร์เซีย ก่อนที่ราคาน้ำมันจะค่อยๆขยับลง และปิดบวกแค่ราวๆ 2%
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ยังได้ชี้แจงลำดับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้รับสัญญาณแจ้งขอความช่วยเหลือจากเรืออัลแทร์เมื่อเวลา 6.12 น. ก่อนที่เรือโคคุกะจะขอความช่วยเหลือตามมาในเวลา 7.00 น.
เออร์เบิน ระบุว่า หลังได้รับสัญญาณแจ้งขอความช่วยเหลือจากเรือโคคุกะประมาณ 1 ชั่วโมง เครื่องบินสหรัฐฯ ก็สังเกตเห็นเรือตรวจการณ์ชั้นเฮนดิจันของ IRGC และเรือโจมตีเคลื่อนที่เร็วของ IRGC อีกหลายลำล่องเข้าไปใกล้กับเรือบรรทุกน้ำมันอัลแทร์
จากนั้นในเวลา 9.26 น. กองกำลังอิหร่านก็สั่งให้เรือลำหนึ่งที่เข้าไปช่วยเหลือลูกเรืออัลแทร์ “ส่งตัวลูกเรือทั้งหมดขึ้นมายังเรือโจมตีชายฝั่งเคลื่อนที่เร็ว (fast inshore attack craft) ของอิหร่าน”
“เรือ ฮุนได ดูไบ ปฏิบัติตามการร้องขอ และส่งลูกเรืออัลแทร์ขึ้นไปยังเรือของอิหร่าน” เออร์เบิน ระบุ
ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (13) คณะผู้แทนอิหร่านประจำองค์การสหประชาชาติได้แถลง “ปฏิเสธข้อครหาทั้งหมดของสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง เกี่ยวกับเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในวันที่ 13 มิ.ย. และขอประณามสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด”
คณะผู้แทนอิหร่านยังกล่าวหาสหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาค เช่น ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่าเป็นพวก “กระหายสงคราม”
เออร์เบิน ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง พร้อมเตือนว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพการเดินเรือสากล และเสรีภาพทางการค้า
“สหรัฐฯ ไม่ต้องการที่จะเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งใหม่ๆ ในตะวันออกกลาง... อย่างไรก็ตาม เราพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของเราเอง” เขากล่าว