มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพฤหัสบดี(13มิ.ย.) หลังเกิดเหตุเรือบรรทุกปิโตรเลียม 2 ลำถูกโจมตีใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ กระพือความกังวลปั่นป่วนการขนส่งเชื้อเพลิงจากตะวันออกกลาง ปัจจัยนี้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดันวอลล์สตรีทปิดบวก ขณะที่ทองคำก็ดีดตัวแรงเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำถูกโจมตีจนเกิดไฟลุกไหม้และลอยเคว้งอยู่กลางทะเลนอกชายฝั่งโอมานในวันพฤหัสบดี(13มิ.ย.) กระพือความกังลว่ามันอาจเกิดการเผชิญหน้าครั้งใหม่ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวโทษเตหะรานว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 4% ทันทีที่ทราบข่าวเกิดเหตุโจมตีใกล้ทางเข้าช่องแคบฮอร์มุซ อันเป็นเส้นทางขนส่งอันสำคัญยิ่งสำหรับซาอุดีอาระเบียและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆในอ่าวเปอร์เซีย เนื่องจากมันก่อความวิตกว่าสถานการณ์ที่วุ่นวายจะกระทบต่ออุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง ก่อนต่อมาราคาน้ำมันจะค่อยๆขยับลงและปิดบวกแค่ราวๆ 2%
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(13มิ.ย.) พุ่งแรง ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียม หลังเหตุต้องสงสัยโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวโอมาน ช่วยดันราคาน้ำมันปิดบวก
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 101.94 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,106.77 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.80 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,891.64 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 44.41 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,837.13 จุด
หุ้นสมาชิกดาวโจนส์อย่างเอ็กซอน โมบิล ขยับขึ้นเกือบ 1% ส่วนฮัลลิเบอร์ตัน บริษัทให้บริการด้านพลังงาน ทะยาน 2.8% หลังเกิดเหตุในอ่าวโอมาน ซึ่งทาง ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว
ขณะเดียวกันวอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อคำพูดแนวอะลุ่มอล่วยเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเหล่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งช่วยกลบความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(13มิ.ย.) ปิดบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน อุปสงค์สินทรัพย์เสี่ยงต่ำเพิ่มขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,343.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์