เอเจนซีส์ - วอลสตรีทเจอร์นัลเปิดเผยว่า คิม จอง-นัม (Kim Jong-nam) พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ถูกลอบสังหารกลางสนามบินกัวลาลัมเปอร์เมื่อกุมภาพันธ์ 2017 เพื่อพบกับ CIA ของสหรัฐฯ ที่เขาทำงานเป็นสายข่าวให้ โดยชี้ว่ามีศูนย์กลางความเชื่อมโยงระหว่างพี่ชายของประธานาธิบดีคิม จองอึน และ CIA
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (11 มิ.ย.) ว่า วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานในวันจันทร์ (11) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่รู้ข้อมูลยืนยันว่า คิม จอง-นัม (Kim Jong-nam) พี่ชายของประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ที่แท้ทำงานให้กับ CIA ของสหรัฐฯ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคิมและ CIA นั้นคลุมเครือ โดยชี้ว่า “มีศูนย์กลางความเชื่อมโยงระหว่าง CIA และคิม จอง-นัม”
นอกจากนี้ วอลสตรีทเจอร์นัลยังรายงานโดยอ้างจากแหล่งข่าวระบุว่า พี่ชายต่างมารดาของคิม จองอึน เดินทางไปมาเลเซียเมื่อกุมภาพันธ์ 2017 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาถูกลอบสังหาร เพื่อพบกับ CIA แต่ทว่านั่นไม่ใช่จุดประสงค์ทั้งหมดของการเดินทาง
ทั้งนี้พบว่า แอนนา ไฟฟิลด์ (Anna Fifield) หัวหน้ากองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่กรุงปักกิ่งเปิดเผยผ่านหนังสิอของเธอ “ผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่” (The Great Successor) มีใจความระบุว่า
“คิม-จองนัม กลายเป็นสายข่าวให้กับทาง CIA ของสหรัฐฯ...น้องชายของเขาคงต้องพิจารณาถึงการพูดคุยกับสายลับอเมริกันเป็นการกระทำของกบฏ แต่ คิม จอง-นัม ได้ป้อนข้อมูลให้แก่คนเหล่านั้น โดยส่วนมากมักพบกับคนที่คอยติดต่อกับเขาที่สิงคโปร์ หรือไม่ก็มาเลเซีย”
วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานว่า “อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่กี่คนเปิดเผยว่า พี่ชายต่างมารดาที่อาศัยนอกเกาหลีเหนือมาเป็นเวลาหลายปีไม่รู้จักฐานอำนาจในกรุงเปียงยาง ไม่ดูเหมือนว่าจะสามารถให้ข้อมูลลับเกี่ยวกับการทำงานภายในของประเทศได้”
อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เหล่านี้ยังกล่าวว่า คิม จอง-นัม ได้รับการติดต่อจากสายลับประเทศอื่นๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะจากจีน
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ต่างออกมาชี้ว่า คิม จอง-นัม ถูกเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือออกคำสั่งให้ทำการลอบสังหาร แต่ทางเปียงยางออกมาปฏิเสธ โดยหญิงสาวชาวอินโดนีเซียและชาวเวียดนามจำนวน 2 รายที่ถูกกล้องทีวีวงจรปิดของสนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์จับภาพใช้ผ้าที่มีสารพิษทำลายประสาทโปะไปที่บริเวณใบหน้าของคิมและทำให้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมาถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำมาเลเซียกลับประเทศในเดือนมีนาคมและพฤษภาคมปีนี้