เอเจนซีส์ - รัสเซียและสหรัฐอเมริกาต่างก็กล่าวโทษอีกฝ่าย ต่อกรณีที่เกือบจะมีการชนกันระหว่างเรือรบของพวกเขา ที่ทะเลจีนตะวันออก ในวันศุกร์ (7 มิ.ย.) ซึ่งทั้งสองประเทศกล่าวหาอีกฝ่ายว่า มีพฤติกรรมที่อันตรายและไม่เป็นมืออาชีพ
กองเรือแปซิฟิกของรัสเซีย ระบุว่า เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี USS Chancellorsville เข้ามาในระยะ 50 เมตรของเรือพิฆาต Admiral Vinogradov ของรัสเซีย บีบให้ทางรัสเซียต้องดำเนินมาตรการฉุกเฉินเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกัน
แถลงการณ์จากกองเรือแปซิฟิกของรัสเซีย ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันศุกร์ บริเวณฝั่งตะวันออกของทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มเรือรบรัสเซียแล่นไปเจอกลุ่มเรือรบสหรัฐฯ
"เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี USS Chancellorsville เปลี่ยนทิศทางกระทันหัน ตัดเข้ามาในเส้นทางเดินเรือของเรือพิฆาต Admiral Vinogradov ของรัสเซีย ในระยะ 50 เมตร" คำแถลงระบุ
"มีการประท้วงผ่านความถี่วิทยุสากลถูกส่งไปยังผู้บัญชาการของเรืออเมริกา เป็นการเตือนเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวที่ไม่อาจยอมรับได้" คำแถลงระบุ
กองทัพเรือสหรัฐฯ ปฏิเสธถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งบอกว่าเป็นการกระทำของฝ่ายรัสเซียต่างหากที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ
"ขณะปฏิบัติงานในทะเลฟิลิปปินส์ เรือพิฆาตรัสเซียได้เคลื่อนที่อย่างไม่ปลอดภัยต่อเรือ USS Chancellorsville" โฆษกกองเรือที่เจ็ดของสหรัฐ ระบุ
"การกระทำที่ไม่ปลอดภัยนี้บีบบังคับให้เรือรบสหรัฐฯ ต้องถอยเต็มกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงการชน"
โฆษกระบุคำกล่าวอ้างของฝ่ายรัสเซีย ที่บอกว่าเรือของสหรัฐอเมริกาได้กระทำสิ่งอันตรายนั้นเป็นแค่ "โฆษณาชวนเชื่อ" เพราะเรือพิฆาตรัสเซียเป็นฝ่ายที่เข้ามาในระยะ 50 - 100 ฟุตของเรือ Chancellorsville ทำให้ลูกเรือและเรือสหรัฐฯ ตกอยู่ในอันตราย