รอยเตอร์ – รัฐมนตรีกลาโหมจีนชี้หากเกิดสงครามกับอเมริกาจะทำให้เกิดหายนะสำหรับโลก เตือนวอชิงตันอย่าก้าวก่ายข้อพิพาทด้านความมั่นคงเกี่ยวกับไต้หวันและทะเลจีนใต้ ย้ำปักกิ่งจะสู้จนถึงที่สุดในสงครามการค้าหากอเมริกาต้องการต่อสู้ และพร้อมเจรจาหากอเมริกาต้องการหารือ
จีนไม่พอใจอย่างมากที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนไต้หวันเมื่อเร็วๆ นี้ที่รวมถึงการส่งเรือแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันที่ขวางกั้นระหว่างเกาะมังกรน้อยกับจีนแผ่นดินใหญ่
ในวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.) เว่ย เฟิ่งเหอ รัฐมนตรีกลาโหมจีน กล่าวในงานแชงกรี-ลา ไดอะล็อกที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นงานประชุมสุดยอดด้านกลาโหมสำคัญของเอเชีย โดยระบุว่า ปักกิ่งจะ “สู้จนถึงที่สุด” หากมีใครพยายามแทรกแซงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งถือเป็นมณฑลขบถที่พร้อมใช้กำลังเข้าผนวกถ้าจำเป็น
เว่ย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมจีนคนแรกที่ขึ้นปราศรัยในงานประชุมนี้นับจากปี 2011 ยืนยันว่า ปฏิบัติการทางทหารของปักกิ่งในเอเชียมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันตนเองเป็นหลัก แต่จีนจะไม่ลังเลที่จะตอบโต้หากถูกโจมตี ความพยายามในการแบ่งแยกไต้หวันจากจีนไม่มีทางสำเร็จ และกองทัพจีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต่อสู้ไม่ว่าต้องสูญเสียเท่าใดก็ตาม
เว่ยสำทับว่า จีนและอเมริกาควรตระหนักว่า ความขัดแย้งหรือสงครามระหว่างกันจะสร้างหายนะให้ทั้งสองฝ่าย รวมถึงต่อโลก ซึ่งระหว่างปราศรัย เว่ยอ้างอิงถึงอเมริกาอย่างชัดเจนว่า บางประเทศนอกภูมิภาคพยายามแสดงแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้โดยอวดอ้างเสรีภาพในการเดินเรือบังหน้า ทั้งนี้ อเมริกาไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ แต่เป็นผู้สนับสนุนและแหล่งอาวุธสำคัญของไทเป
เมื่อวันเสาร์ (1 มิ.ย.) แพทริก ชานาแฮน รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในเวทีเดียวกันว่า อเมริกาจะไม่หลีกเลี่ยงการเชิญหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของจีนในเอเชียอีกต่อไป ทั้งนี้ ความสัมพันธ์อเมริกา-จีนบาดหมางกันอย่างหนักจากสงครามการค้า การที่สหรัฐ ให้การสนับสนุนไต้หวัน และการเพิ่มประจำการณ์ทางทหารของปักกิ่งในทะเลจีนใต้ ซึ่งวอชิงตันส่งเรือลาดตระเวนเพื่อส่งเสริมเสรีภาพในการเดินเรือบ่อยครั้ง
เมื่อเดือนพฤษภาคม เดวิด ลี ผู้อำนวยการด้านความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน พบกับจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของไต้หวันและอเมริกา ขณะเดียวกัน ไต้หวันกำลังจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมปีหน้า และประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน กล่าวหาปักกิ่งซ้ำๆ ว่าพยายามบ่อนทำลายประชาธิปไตยของไต้หวัน รวมทั้งประกาศปกป้องประเทศและเสรีภาพของประชาชน
นอกจากนั้น สัปดาห์นี้ยังเป็นวาระครบรอบ 30 ปีการปราบปรามผู้ประท้วงบนจัตุรัสเทียนอันเหมินในปักกิ่ง ซึ่งทำให้เสียงวิจารณ์เกี่ยวกับแนวทางการจัดการภัยคุกคามด้านความมั่นคงของจีนกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เว่ยตอบคำถามผู้เข้าร่วมประชุมโดยปกป้องวิธีการจัดการเหตุการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลในสมัยนั้นว่า เป็นการกระทำที่เด็ดขาดเพื่อหยุดยั้งสถานการณ์วุ่นวาย ซึ่งทำให้จีนมีเสถียรภาพจนถึงขณะนี้
ส่วนประเด็นสงครามการค้าที่เขย่าตลาดการเงินทั่วโลก เว่ยประกาศว่า จีนจะ “สู้จนถึงที่สุด” หากอเมริกาต้องการต่อสู้ และพร้อมเจรจาหากอเมริกาต้องการหารือ ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าปะทุรุนแรงในเดือนที่ผ่านมา หลังจากคณะบริหารของทรัมป์กล่าวหาจีนผิดสัญญาในการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติทางเศรษฐกิจ และขึ้นภาษีศุลกากร 25% กับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ปักกิ่งลุกขึ้นมาตอบโต้ในรูปแบบเดียวกัน
ที่ปักกิ่ง หวัง ชูเหวิน รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์จีนและเป็นส่วนหนึ่งในทีมเจรจาการค้า กล่าวในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นอย่างเร่งด่วนว่า การกล่าวหาของอเมริกาเป็นการขาดความรับผิดชอบ และอเมริกาจะต้องผิดหวัง หากคิดว่า การเพิ่มความกดดันจะทำให้จีนยอมอ่อนข้อ