เอเอฟพี – ทหารเกาหลีใต้ที่ประจำแนวชายแดนยุคสงครามเย็นยกระดับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในขณะที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคามแทรกซึมจากหมูป่าที่ติดเชื้อโรคในเกาหลีเหนือ
การระบาดของไข้หวัดหมูแอฟริกาที่เกิดขึ้นทั่วจีน เวียดนาม และมองโกเลียลุกลามเข้าสู่ประเทศสันโดษแห่งนี้ ก่อให้เกิดความกังวลว่าสัตว์ที่ป่วยแล้วข้ามชายแดนเข้ามาอาจทำลายอุตสาหกรรมเนื้อหมูมูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์ของเกาหลีใต้
“เราต้องพยายามป้องกันไม่ให้หมูป่าในเกาหลีเหนือเข้ามาในอาณาเขตของเรา” ลี นัคยอน นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ กล่าววันนี้ (1) หลังจากไปเยือนฟาร์มหมูใกล้เขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone – DMZ) ที่แยกสองประเทศออกจากกัน
ไข้หวัดหมูแอฟริกาไม่มีอันตรายต่อมนุษย์แต่เป็นภัยร้ายแรงต่อหมูและหมูป่า และทำลายห่วงโซอุปาทานในจีน ผู้บริโภคเนื้อหมูรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งทางการสั่งฆ่าหมูหลายแสนตัว
เปียงยางบอกองค์การสุขภาพสัตว์โลก (World Organisation for Animal Health) ว่า หมู 77 จาก 99 ตัวตายด้วยโรคนี้ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนจีน อ้างจากกระทรวงเกษตรของเกาหลีใต้
ในวันนี้ (1) กระทรวงฯ ระบุว่า โรคนี้มีโอกาสเข้าสู่เกาหลีใต้สูง และรัฐบาลได้สั่งกั้นรั้วที่ฟาร์มหลายแห่งตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการสัมผัสระหว่างหมูเลี้ยงและหมูป่า
โซลเชื่อว่า เปียงยางเลี้ยงหมูราว 2.6 ล้านตัวทั่วทั้ง 14 ฟาร์มของรัฐ การแพร่ระบาดอาจทำให้ภาวะขาดแคลนอาหารเลวร้ายลงในเกาหลีเหนือ ซึ่งผลผลิตเมื่อปีที่แล้วอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008 อ้างจากโครงการอาหารโลก
ในเกาหลีใต้ มีฟาร์มหมูอยู่ราว 6,700 แห่งทั่วประเทศ และการเลี้ยงหมูคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั้งหมด
เมื่อปี 2011 การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคปากและเท้าเปื่อยเกิดขึ้นทั่วคาบสมุทรเกาหลีและส่งผลให้มีการฆ่าวัว หมู และสัตว์อื่นๆ เกือบ 3.5 ล้านตัวในเกาหลีใต้เพียงที่เดียว
ถึงแม้ว่าป้อมปราการ รั้วลวดหนาม และทหารเกาหลีเหนือที่กระหายสงครามจะทำให้การข้ามเขตปลอดทหารเป็นเรื่องอันตรายสำหรับมนุษย์ เขตนี้ไม่ได้สัมผัสกับความพัฒนาและเป็นสวรรค์สำหรับสัตว์ป่า
เมื่อเดือนตุลาคม หมีควายตัวหนึ่งถูกถ่ายรูปได้ในเขตนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมของโซล ระบุ