เอเอฟพี – กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เตรียมสอบสวนยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ต กูเกิล (Google) ว่ามีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการผูกขาดและการกีดกันทางการค้า (Antitrust) หรือไม่ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลรายงานเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.)
วอลล์สตรีทเจอร์เนิลอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดซึ่งระบุว่า ทางกระทรวงจะตรวจสอบการดำเนินงานของกูเกิลในส่วนของเว็บเสิร์ช รวมถึงธุรกิจด้านอื่นๆ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ จะแชร์ข้อมูลความผิดเกี่ยวกับการผูกขาดต่อคณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐฯ (Federal Trade Commission) ซึ่งเคยดำเนินการตรวจสอบอย่างกว้างขวางต่อเสิร์ชเอ็นจินรายใหญ่ของค่าย อัลฟาเบท อิงค์ มาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะยุติการสืบสวนไปเมื่อปี 2013 โดยไม่มีบทลงโทษใดๆ
ล่าสุด กูเกิล ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้
กระบวนการสอบสวนครั้งใหม่มีขึ้นท่ามกลางกระแสวิจารณ์อิทธิพลของพวกบริษัทไฮเทครายใหญ่ที่ครอบงำเศรษฐกิจในโลกออนไลน์
ส.ว. เอลิซาเบธ วอร์เรน จากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกาศตัวลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 เรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดอย่างเข้มงวด และลดอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก, กูเกิล และ แอปเปิล เพื่อให้เกิดการแข่งขันในตลาดมากขึ้น
อัลฟาเบทมีผลกำไรลดลง 29% มาอยู่ที่ 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แม้ว่ารายได้โดยรวมจะเพิ่มขึ้น 17% มาอยู่ที่ราวๆ 36,300 ล้านดอลลาร์ก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากถูกสหภาพยุโรป (อียู) สั่งปรับเงินถึง 1,700 ล้านดอลลาร์ในข้อหาผูกขาดการค้า
แพลทฟอร์มโฆษณาในกูเกิลยังคงสร้างรายได้หลักให้แก่อัลฟาเบท โดยคิดเป็นเงินมากกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ ทว่าต้นทุนก็เพิ่มสูงขึ้นมากเช่นกัน
กูเกิลเผชิญแรงกดดันจากองค์กรตรวจสอบทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปซึ่งกล่าวหาเสิร์ชเอ็นจินรายใหญ่ว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ทั้งในด้านการค้นหาทางออนไลน์ การโฆษณา และระบบโมบายล์
คำสั่งปรับล่าสุดของบรัสเซลส์อ้างว่า บริการโฆษณา AdSense ของกูเกิลกีดกันเว็บไซต์ลูกค้าไม่ให้แสดงข้อความจากแอดเซอร์วิสคู่แข่ง
ผู้คุมกฎของอียูยังเล่นงานกูเกิลกรณีการผูกขาดเสิร์ชเอ็นจินในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งได้มีการสั่งปรับเงินไปแล้วถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
กูเกิลประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่าจะติดตั้งเว็บเบราเซอร์และเสิร์ชเอ็นจินทั้งหมด 5 ตัวให้แก่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน เพื่อตอบสนองข้อกังวลของอียูในเรื่องของการแข่งขัน
แม้แต่ในสหรัฐฯ เอง กูเกิลก็ยังถูกประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และกลุ่มผู้สนับสนุนกล่าวหาว่า “ลำเอียง” ปิดกั้นเสียงของฝ่ายอนุรักษนิยม ซึ่งยักษ์ใหญ่แห่งซิลิคอนแวลลีย์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง