xs
xsm
sm
md
lg

‘หัวเว่ย’ ร้องศาลสหรัฐฯ คว่ำกฎหมายกีดกันสินค้า อ้าง ‘ขัดรัฐธรรมนูญ’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ซ่ง หลิวปิง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ย เปิดแถลงข่าวเรื่องการยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ กรณีออกกฎหมาย National Defense Authorization Act (NDAA) กีดกันสินค้าหัวเว่ย ณ สำนักงานใหญ่ในนครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง วันนี้ (29 พ.ค.)
เอเจนซีส์ – บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ยื่นคำร้องต่อศาลส่วนกลางสหรัฐฯ วานนี้ (28 พ.ค.) โดยขอให้มีคำพิพากษาคว่ำกฎหมายความมั่นคงที่มีลักษณะกีดกันธุรกิจของหัวเว่ยอย่างไม่เป็นธรรม ในความพยายามล่าสุดของยักษ์ใหญ่แดนมังกรที่จะต่อสู้มาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หัวเว่ย ได้ยื่นฟ้องศาลในรัฐเทกซัสเพื่อโต้แย้งความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของมาตรา 889 ในกฎหมาย National Defense Authorization Act (NDAA) ปี 2019 ซึ่งมีผลทำให้หน่วยงานรัฐบาลอเมริกันและบริษัทคู่สัญญาถูกห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์และบริการทุกประเภทของหัวเว่ย

ล่าสุด บริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อค่ำวานนี้ (28) เพื่อขอให้มีคำพิพากษารวบรัด (summary judgement) ในกรณีดังกล่าว

“รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถแสดงหลักฐานยืนยันได้ว่า หัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างไร ไม่มีทั้งปืน ไม่มีทั้งควัน มีแต่การคาดเดาล้วนๆ” ซ่ง หลิวปิง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ย ระบุในถ้อยแถลง

ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งบริหารห้ามไม่ให้หน่วยงานในสหรัฐฯ ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย และยังสั่งขึ้นบัญชีดำบริษัทโทรคมนาคมจีนแห่งนี้ ซึ่งทำให้ผู้ผลิตในอเมริกาไม่สามารถจำหน่ายชิ้นส่วนไฮเทคที่จำเป็นหรือแชร์เทคโนโลยีต่างๆ กับหัวเว่ยได้ ก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะออกมาประกาศชะลอคำสั่งแบนออกไปอีก 90 วัน

หัวเว่ยชี้ว่า กฎหมายความมั่นคงปี 2019 ซึ่งห้ามมิให้หน่วยงานของสหรัฐฯ ซื้ออุปกรณ์ บริการ หรือแม้กระทั่งทำงานร่วมกับบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นลูกค้าของหัวเว่ย ถือเป็นการเล่นงานบริษัทอย่างเฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ

“กระบวนการยุติธรรมคือช่องทางสุดท้ายที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรม... หัวเว่ยยังเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ เป็นอิสระและมีความเที่ยงตรง” ซ่ง กล่าว

“เราหวังว่าข้อผิดพลาดในกฎหมาย NDAA จะได้รับการแก้ไขโดยศาล”

หัวหน้าทีมกฎหมายหัวเว่ยยังฝากเตือนรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เลิกอ้างภัยคุกคามไซเบอร์มาเป็นเหตุผลในการคว่ำบาตร “เพราะไม่ได้ช่วยให้เครือข่ายต่างๆ มีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น พวกเขาพยายามทำให้คนหวาดกลัวไปเอง และเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่แท้จริงซึ่งเรากำลังเผชิญกันอยู่”

“นักการเมืองสหรัฐฯ จงใจใช้พลังของคนทั้งประเทศมาเล่นงานบริษัทเอกชนรายเดียว... นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ และแทบไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์”

สหรัฐฯ เกรงว่าอุปกรณ์ไฮเทคของหัวเว่ยอาจถูกจีนควบคุมเพื่อใช้ในการสอดแนมชาติอื่น และเรียกร้องให้ทุกประเทศพร้อมใจกันกีดกันหัวเว่ยออกจากโครงการพัฒนาเครือข่ายไร้สาย 5G

ความวิตกกังวลของสหรัฐฯ ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อหัวเว่ยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์เครือข่ายโทรคมนาคม และยังขึ้นแท่นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มียอดขายมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากซัมซุง
กำลังโหลดความคิดเห็น