รอยเตอร์ - ในรายงานของสำนังานคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ UNHRC ที่ออกมาในวันนี้(28 พ.ค) ระบุว่า ประชาชนชาวเกาหลีเหนือถูกบังคับให้ต้องจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่เปียงยางเพื่อความหยู่รอดในประเทศที่การคอร์รัปชันเป็นเหมิอนโรคระบาดที่ลุกลามไปทั่ว แต่เปียงยางออกมาปัด ชี้ มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง
รอยเตอร์รายงานวันนี้(28 พ.ค)ว่า ในรายงานที่ออกโดยสำนักงานคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ UNHRC กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เปียงยางได้กรรโชกทรัพย์จากประชาชนชาวเกาหลีเหนือที่ยายามอย่างหนักเพื่อที่จะให้สามารถอิ่มท้องในแต่ละวัน ข่มขู่คนเหล่านี้ด้วยการกักขังและดำเนินคดี โดยเฉพาะในกลุ่มที่ทำงานในระบบเศรษฐกิจที่ไม่เป็นทางการของเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือได้ออกมาปฎิเสธรายงาน โดยชี้ว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลังเพื่อผลร้ายอันใหญ่หลวง
“รายงานประเภทนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างเรื่อง...จากที่มักอยู่บนหลักฐานที่เรียกว่า “การให้การของพวกแปรพักตร์” ที่ได้ให้ข้อมูลที่แต่งขึ้นเพื่อการดำรงชีพของตัวเอง หรือถูกบังคับให้ต้องกระทำภายใต้การถูกข่มขู่หรือการได้รับสิ่งตอบแทนแลกเปลี่ยน” รายงานจากแถลงการณ์ของเกาหลีเหนือประจำเจนีวาที่ออกมาถึงรอยเตอร์
ทั้งนี้เปียงยางกล่าวโทษสถานการณ์ด้านมนุษยชนในประเทศที่เลวร้ายนั้นเกิดมาจากการที่สหรัฐฯได้สั่งลงโทษคว่ำบาตรต่อการโครงการทดสอบนิวเคลียร์และมิสไซล์ของเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ปี 2006 แต่ในรายงานของยูเอ็นกลับชี้ว่า กองทัพเปียงยางกลับได้รบงบประมาณอุดหนุนมาเป็นอันดับต้นท่ามกลางการจัดการทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด
ทั้งนี้พบว่าในรายงานได้มีการสัมภาษณ์ชาวเกาหลีเหนือจำนวน 241 คนที่แอบหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดรยังกัง (Ryanggang) ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดฮัมกย็อง( Hamgyong) ซึ่งมีพรมแดนติดประเทศจีน
โดยในครั้งแรก คนเหล่านี้จะถูกตัดออกจากระบบการปันส่วนสาธารณะที่ล่มลงในปี 1994 และตามมาด้วยภาวะความอดอยากที่มีการคาดว่ามีประชากรเสียชีวิตไปร่วม 1 ล้านคน รายงานกล่าว
หนึ่งในผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือที่มาจากจังหวัดรยังกังที่ในปัจจุบันอาศัยอยู่ที่เกาหลีใต้กล่าวว่า “หากว่าคุณทำตามคำสั่งที่ออกมาจากรัฐอย่างเดียว คุณอดตายแน่นอน” และชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตรอีกรายชี้ว่า “แต่หากว่าคุณมีเงิน คุณสามารถหนีได้ทุกสิ่ง รวมไปถึง ฆ่าคน”
รอยเตอร์รายงานว่า ประชาชนชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากมักจะจ่ายสินบนด้วยเงินสดหรือบุหรี่ เพื่อที่จะไม่ต้องรายงานรัฐถึงงานที่พวกเขาถูกรัฐส่งไปให้ทำซึ่งเป็นการทำงานที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้าง แต่เปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นสามารถหาเงินในตลาดได้
และพบว่ามีคนอื่นต้องจ่ายสินบนให้กับทหารประจำพรมแดนเพื่อที่จะสามารถข้ามเข้าไปในจีนในประเทศที่ผู้หญิงเกาหลีเหนือตกเป็นเหยื่อในการค้ากามหรือถูกบังคับให้ต้องแต่งงาน
มิเชล บาเชเลต ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือให้หยุดดำเนินคดีประชาชนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกต้องของตลาด และอนุญาตให้คนเหล่านั้นสามารถเดินทางได้อย่างเสรีทั้งภายในเกาหลีเหนือและต่างประเทศ และจีนไม่สมควรที่จะบังคับส่งตัวชาวเกาหลีเหนือกลับประเทศ
ซึ่งในเดือนนี้สหรัฐฯได้ออกมาเรียกร้องให้เปียงยางทำลายค่ายกักกันทางการเมือง และทำการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมดที่กล่าวว่ามีอยู่ราว 80,000 – 120,000 คนแต่ทางเปียงยางออกมาปฎืเสธว่าไม่เคยมีค่ายกักันที่ว่านี้ตั้งอยู่ในประเทศ
