เอเจนซีส์ - คำร้องที่เรียกร้องให้ประธานาธิบดี มุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ถูกดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเอาผิด มีการรวบรวมลายเซ็นได้มากกว่า 217,000 รายชื่อ ในวันจันทร์ (27 พ.ค.) ซึ่งเป็นจำนวนที่ผ่านเกณฑ์ และจะต้องมีการตอบสนองจากรัฐบาล เน้นย้ำให้เห็นถึงกระแสความนิยมที่ลดลงของมุน
ผู้เขียนคำร้องออนไลน์ไม่ได้ระบุตัวตน บอกแค่เพียงว่าเป็นพลเมืองที่เคยมีส่วนร่วมในการประท้วงในปี 2017 ที่นำไปสู่การฟ้องร้องและโค่นอำนาจ พัค กึนฮเย ประธานาธิบดีคนที่แล้ว
"ฉันคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ที่จะเสนอยื่นถอดถอนประธานาธิบดีผู้กระทำผิดต่อจิตใจคนทั้งชาติ” ผู้ร้องเขียนบนเว็บไซต์สำหรับการร้องเรียนต่อทำเนียบประธานาธิบดี
ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องตอบสนองต่อคำร้องใดๆ ก็ตาม ที่สามารถรวบรวมลายเซ็นมากกว่า 200,000 รายชื่อ
ผู้ร้องเรียนกล่าวว่า มุนไม่ใส่ใจต่อการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ รวมถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนและการขนส่งถ่านหินของเกาหลีเหนืออย่างผิดกฎหมาย แต่กลับทำเรื่องไร้สาระ อย่างลดการป้องกันทางทหาร ทั้งที่เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์
โฆษกหญิงของทำเนียบฯ ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้อง บอกเพียงแค่ว่า "ตามความเข้าใจของฉัน รัฐบาลเกาหลีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทำเนียบฯ จะเป็นผู้ตอบเรื่องนี้"
มุน นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน เขาชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2017 จนได้เป็นประธานาธิบดี และสิ้นสุดการปกครอง 9 ปีของฝ่ายอนุรักษ์นิยม
เขาได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางเมื่อเทียบกับผู้นำคนก่อนๆ แต่ในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจซบเซาและการเจรจากับเกาหลีเหนือยังติดขัด ทำให้ฐานผู้สนับสนุนของเขานั้นลดลง
ตามข้อมูลที่แสดงในวันศุกร์ 44% ของผู้ตอบแบบสอบถาม จากการสำรวจของ Gallup Korea ระบุว่า มุนทำงานได้ไม่ดี เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสี่เท่าจากปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นกระแสความนิยมของเขาพุ่งสูงที่สุด หลังจากการประชุมสุดยอดครั้งแรกกับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน
ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถามมี 50% ที่แสดงความไม่พอใจต่อนโยบายเศรษฐกิจของมุน ในขณะที่ 13% วิจารณ์ว่าเขาให้ความสำคัญกับเกาหลีเหนือและนโยบายที่เป็นมิตรกับเกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้ ประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชีย กำลังดิ้นรนท่ามกลางการส่งออกที่ลดลง อัตราเงินเฟ้อต่ำ อัตราการว่างงานสูง การส่งออกลดลงเป็นเดือนที่ห้าในเดือนเมษายน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 1% อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนเมื่อเดือนเมษายน
ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีและการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือก็หยุดชะงักเช่นกัน หลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่สองที่กรุงฮานอยในเดือนกุมภาพันธ์