xs
xsm
sm
md
lg

In Clips: ยามฝั่งลิเบียช่วย "290 ผู้อพยพ" นอกฝั่งตะวันออกสำเร็จ – ผบช.ติดอาวุธโปรรบ.แห่งชาติ GNC ชี้ “มาครง” ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตในตริโปลี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - โฆษกกองทัพเรือลิเบียแถลง เจ้าหน้าที่ยามฝั่งลิเบียช่วยผู้อพยพจำนวน 290 คนขึ้นจากแพยางเป่าลมได้ในวันศุกร์(24 พ.ค)ใน 2 ปฎิบัติการเกิดขึ้นนอกชายฝั่งกรุงตริโปลี ในขณะที่ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติลิเบียGNC ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติประกาศ ประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศสต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตจากการสู้รบในกรุงตริโปลี

รอยเตอร์รายงานวันนี้(24 พ.ค)ว่า ชายฝั่งทางตะวันตกของลิเบียถือเป็นศูนย์กลางการอพยพของบรรดาผู้อพยพหลายแสดนคนจากทวีปแอฟริกาที่ต้องการหนีภัยสงครามและความยากจนมุ่งหน้าเข้าสู่พรมแดนอิตาลีในฝั่งยุโรป

อโยบ คาสเซม( Ayoub Qassem) โฆษกกองทัพเรือลิเบียแถลงกับรอยเตอร์ว่า เรือยามฝั่งลิเบียสามารถช่วยผู้ลี้ภัยจำนวน 87 คนที่อยู่ในเรือยางเป่าลมนอกชายฝั่งเมือง คาราบูรี( Qarabuli ) 50 กิโลเมตรทางตะวันออกของกรุงตริโปลี

ทั้งนี้พบว่าหน่วยงานยามฝั่งลิเบียเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือลิเบีย

คาสเซมแถลงเพิ่มเติมว่า และในอีกกลุ่มที่มีผู้อพยพจำนวน 203 คนถูกช่วยออกมาจากเรือยางเป่าลม 2 ลำนอกชายฝั่งเมืองซลิติน(Zlitin) 160 กิโลเมตรทางตะวันออกของกรุงตริโปลี

“กลุ่มผู้อพยพผิดกฎหมายยถูกพบอยู่กับเรือขนาดใหญ่ที่แตก คนเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังเจ้าหน้าที่ยามฝั่งตรวจการณ์ในเรือ 2 ลำ”

และโฆษกกองทัพเรือลิเบียชี้แจงว่า หลังจากนั้นได้ทำการส่งมอบกลุ่มผู้อพยพเหล่านี้ให้กับแผนกต่อต้านผู้อพยพผิดกฎหมายหลังจากคนทั้งหมดได้ขึ้นฝั่งที่เมืองโคมาส(Khomas) และเมืองจันซูร์(Janzur)

พบว่าผู้อพยพทั้งหมดที่ช่วยเหลือมาได้ในวันศุกร์(24)มีรวมราว 290 คนนั้นมาจากส่วนต่างๆประเทศอาหรับและประเทศด้านใต้ทะเลทรายซาฮารา ที่รวมไปถึงผู้หญิง 7 คน และเด็ก 1 คน

รอยเตอร์ชี้ว่า หลังจากที่ทางอิตาลีได้สนับสนุนข้อตกลง จำนวนผู้อพยพข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากทวีปแอฟริกานั้นลดลงเป็นจำนวนมากตั้งแต่กรกฎาคม 2017 เมื่อบรรดากลุ่มค้ามนุษย์ถูกกลุ่มติดอาวุธทำการขับไล่จากศูนย์กลางการค้ามนุษย์เมืองซาฮาราในตะวันตกของกรุงตริโปลี

ทั้งนี้สื่อยูโรนิวส์รายงานเมื่อวานนี้(23)ว่า นักรบของกลุ่มที่จงรักภักดีต่อรัฐบาลแห่งชาติ GNA ของลิเบียที่สหประชาชาติสนับสนุนออกมาประกาศว่า ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตที่เกิดจากการสู้รบในกรุงตริโปลี

พบว่าในวันพุธ(22) มาครงไปต้อนรับกลุ่มฮัฟตาร์(Haftar) สำหรับการประชุมแบบปิดห้องลับที่กรุงปารีส ในขณะที่กองกำลังกองทัพแห่งชาติลิเบีย LNA (Libyan National Army) ยังคงทำสงครามรบพุ่งกับฝ่ายสนับสนุนกองกำลังที่สนับสนุนรัฐบาลลิเบียในกรุงตริโปลีเพื่อแย่งเมืองหลวงแห่งนี้ไปจากรัฐบาล GNC เกิดขึ้น 2 สัปดาห์หลังจากที่มาครงเปิดประตูรับนายกรัฐมนตรีรัฐบาล GNC ของลิเบีย ฟาเยซ อัล-เซอร์ราจ(Fayez al-Serraj)

“สำหรับนักรบบางส่วนในพื้นที่ ความผันผวนทางการทูตล่าสุดแสดงให้เห็นว่า “มาครงต้องรับผิดชอบสำหรับใครก็ตามที่ต้องตายที่นี่” และกล่าวต่อว่า “ฝรั่งเศส ผมไม่ได้หมายความรวมถึงประชาชนชาวฝรั่งเศส ผมหมายถึงมาครงที่ได้ให้การสนับสนุนฮัฟตาร์” โมฮัมเหม็ด คาลิล อิสซา(Mohamed Khalil Issa) ผู้บัญชาการกองพลน้อยยาตริบ(Yatrib) เพื่อรัฐบาล GNC แสดงความเห็น

สื่อยูโรนิวส์ชี้ว่า ฝรั่งเศสเหมือนเช่นชาติอื่นๆในสหภาพยุโรปที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติ GNC ของลิเบีย แต่อ้างอิงจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญพบว่า ปารีสได้ให้การสนับสนุนฮัฟตาร์เช่นกัน ซึ่งกองกำลังฮัฟตาร์ยังคงควบคุมพื้นที่ส่วนมากของลิเบีย โดยเฉพาะจังหวัดทางตะวันออกที่เต็มไปด้วยน้ำมัน ในความพยายามที่จะทำให้กลุ่มกองกำลังอิสลามิสต์อ่อนแอลงถึงแม้ว่าฝรั่งเศสจะไม่เคยยอมรับอย่างเป็นทางการ

อิสซากล่าวต่อว่า “มี 3ประเทศอาหรับได้แก่ อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้การสนับสนุนฮัฟตาร์ แต่มาครงเป็นปิศาจที่น่ากลัวในบรรดาคนเหล่านี้ เพราะมาครงให้การสนับสนุนฮัฟตาร์ทั้งการทหารและการเมือง”

ทางอิสซาอ้างว่าท างกลุ่มฮัฟตาร์ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายที่กรุงตริโปลีเหมือนเช่นกลุ่มของเขา และเขาเชื่อว่าการสู้รบกับฮัฟตาร์เป็นหนึ่งในความชอบธรรม

ทั้งนี้พบว่านับตั้งแต่กองกำลัง LNA ได้เข้าลุกคืบในกรุงตริโปลีเมื่อวันที่ 4 เม.ย มีคนไม่ต่ำกว่า 510 รายเสียชีวิต และจำนวนมากกว่า 2,460  คนได้รับบาดเจ็บ อ้างอิงตัวเลขจากองค์การอนามัยโลก






กำลังโหลดความคิดเห็น