xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์ขู่จัดหนักปกป้องผลประโยชน์ เชื่ออิหร่านเอี่ยวยิงจรวดใส่กรีนโซน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ – ทรัมป์เตือนอิหร่านจะเจอ “กองกำลังขนาดใหญ่” ถ้าโจมตีผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง ขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลเผยวอชิงตันสงสัยว่า กองกำลังชีอะห์ที่โยงใยกับเตหะรานอยู่เบื้องหลังการยิงจรวดใส่เขตกรีนโซนในแบกแดด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ (20 พ.ค.) ว่าอิหร่านคงทำผิดพลาดมหันต์และต้องพบกับกองกำลังขนาดใหญ่ หากโจมตีอเมริกาในตะวันออกกลาง พร้อมระบุยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า เตหะรานจะกระทำการดังกล่าว ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านชี้คำขู่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่มีทางทำให้เตหะรานพบจุดจบได้

"ชนชาติอิหร่านดำรงคงอยู่มาเป็นพันๆ ปี ในขณะที่พวกผู้รุกรานล้มหายตายจากไปหมด การก่อการร้ายทางเศรษฐกิจและคำขู่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จะไม่มีทางทำให้อิหร่านพบจุดจบได้” โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ทวีตข้อความ

ซารีฟ ยังวิจารณ์ทรัมป์ว่าปล่อยให้ทีมงานตัวเอง “ละทิ้งธรรมเนียมการทูต” และ “ส่งเสริมอาชญากรรมสงครามด้วยการขายอาวุธล็อตใหญ่ให้กับพวกฆาตกรที่ชอบกดขี่”

การแสดงความคิดเห็นนี้มีขึ้นในขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ 2 คนเผยว่า อเมริกาสงสัยว่า กองกำลังชีอะห์ที่โยงใยกับเตหะรานอยู่เบื้องหลังการยิงจรวดใส่เขตกรีนโซนในแบกแดดเมื่อวันอาทิตย์ (19) โดยอาจได้รับการส่งเสริมจากอิหร่าน และอเมริกากำลังพยายามรวบรวมหลักฐานเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบในการโจมตีดังกล่าว รวมถึงระดับความเกี่ยวข้องของอิหร่าน

การโจมตีกรีนโซน ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยงานของรัฐบาลอิรัก รวมทั้งสถานทูตของประเทศต่างๆ ที่แม้ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เป็นการโจมตีครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งอเมริกาเชื่อว่า ได้แรงบันดาลใจจากอิหร่าน ขณะที่เตหะรานปฏิเสธความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการโจมตีสถานีน้ำมันสองแห่งของซาอุดีอาระเบียด้วยโดรนเมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา และการวินาศกรรมเรือ 4 ลำ โดย 2 ลำในจำนวนนี้เป็นเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดีฯ นอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 12

กบฏฮูตีในเยเมนที่เป็นพันธมิตรของอิหร่านอวดอ้างว่าเป็นผู้ลงมือทำการโจมตีสถานีน้ำมัน ซึ่งริยาดห์กล่าวหาว่า เตหะรานเป็นผู้บงการ ขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ และยุโรปเชื่อว่า นักรบชีอะห์ในเยเมนหรืออิรักเป็นผู้โจมตีในซาอุดีฯ และยูเออี โดยที่อิหร่านเกี่ยวข้องด้วย

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ตัดสินใจสกัดการส่งออกน้ำมันทั้งหมดของอิหร่าน หลังจากครบรอบ 1 ปีการนำอเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ 6 ชาติมหาอำนาจทำกับเตหะราน

เมื่อวันจันทร์ สำนักข่าวทัสนิมของอิหร่านรายงานโดยอ้างการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ในโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมนาทานซ์ โดยระบุว่า อิหร่านกำลังเร่งการกลั่นยูเรเนียมให้ได้วัสดุฟิสไซล์ที่มีความบริสุทธิ์ 3.67% ซึ่งเหมาะสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์เพื่อวัตถุประสงค์ด้านพลเรือน

ทั้งนี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากทรัมป์พยายามปิดกั้นการส่งออกน้ำมันทั้งหมด อิหร่านออกมาตอบโต้ด้วยการประกาศว่า จะผ่อนคลายพันธะสัญญาบางส่วนภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำกับอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และอเมริกาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แถมในเดือนนี้อิหร่านยังประกาศว่า จะเลิกใช้ข้อจำกัดการจัดเก็บยูเรเนียมเสริมสมรรถนะต่ำเพื่อตอบโต้ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลง

เจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของอเมริกา ให้สัมภาษณ์สถานีบีบีซี เวิลด์ นิวส์ว่า ตนเองไม่ตกใจกับคำประกาศเกี่ยวกับยูเรเนียมของอิหร่าน แต่ที่กังวลก็คือ ความเสี่ยงที่สถานการณ์อาจลุกลามโดยไม่ตั้งใจเมื่อกองกำลังต่างฝ่ายเคลื่อนเข้าประชิดกัน โดยขณะนี้กองเรือลาดตระเวนของทั้งอเมริกาและอิหร่านต่างเข้าไปประจำการณ์ในช่องแคบฮอร์มุซ

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19) ทรัมป์ทวิตขู่ว่า อิหร่านจะพบจุดจบ ถ้ากระหายจะทำสงคราม ต่อมาในวันจันทร์ มาจิด ทัคต์ ราแวนชี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทำจดหมายถึงแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เตือนว่า หากไม่มีการยับยั้ง ไม่ช้าก็เร็วสถานการณ์ปัจจุบันอาจลุกลามเกินควบคุมและนำไปสู่วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางโดยไม่จำเป็น
กำลังโหลดความคิดเห็น