เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง แห่งสิงคโปร์ออกมาปฏิเสธข้อครหาจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่งที่มองว่า “กฎหมายต่อต้านข่าวปลอม” มีเจตนาปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
กฎหมายใหม่ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้อำนาจแก่รัฐมนตรีในการสั่งให้สื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ขึ้นข้อความเตือนไว้ข้างๆ โพสต์ที่ทางการเห็นว่าเป็นข่าวลวง หรืออาจจะถึงขั้นสั่งให้ลบข้อมูลนั้นๆ ทิ้ง
กฎหมายนี้กำหนดระวางโทษปรับสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับบริษัทที่ฝ่าฝืน ส่วนบุคคลจะมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี หากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายประสงค์ร้ายหรือเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของชาติ
นักสิทธิมนุษยชนออกแสดงความเป็นห่วงว่ากฎหมายนี้อาจจะถูกใช้เป็นเครื่องมือปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ รวมถึงข่มขู่บริษัทไฮเทคที่มีฐานในสิงคโปร์ และองค์กรสื่อบางแห่ง
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ลี ได้ออกมาแถลงปกป้องมาตรการของรัฐบาลในวันนี้ (17 พ.ค.)
“ผมไม่เห็นเลยว่ากฎหมายฉบับนี้ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีตรงไหน” ลี กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ซึ่งเดินทางมาเยือนสิงคโปร์
“ผมมองว่านี่คือแนวปฏิบัติที่จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับปัญหา (ข่าวปลอม) และเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ลี ระบุ
รัฐบาลสิงคโปร์จะอ้างว่ากฎหมายลักษณะนี้มีความจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้คนนำข้อมูลเท็จมาแพร่ลงสื่อออนไลน์จนสร้างความแตกแยกในสังคม
ด้านนายกฯ นิวซีแลนด์ก็ได้ออกมารณรงค์ร่วมกับผู้นำทั่วโลกในสัปดาห์นี้ โดยเรียกร้องให้ทุกประเทศช่วยกันยับยั้งการใช้สื่อโซเชียลเผยแพร่แนวคิดสุดโต่ง หลังมือปืนคลั่งลัทธิผิวขาวคนหนึ่งได้เปิดกล้องไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กขณะเข้าไปกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชเมื่อ 2 เดือนก่อน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 51 ราย