มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพุธ (15 พ.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ปัจจัยนี้ดันทองคำปิดบวก ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้น หลังสหรัฐฯ ส่งสารประนีประนอมต่อการเจรจาการค้ากับจีน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 24 เซ็นต์ ปิดที่ 62.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ ปิดที่ 71.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (15 พ.ค.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 พฤษภาคม เพิ่มขึ้นถึง 5.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ บ่งชี้อุปสงค์อ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันขยับขึ้นจากแรงหนุนของสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่โหมกระพือหนักหน่วงขึ้นจนถึงขั้นสหรัฐฯ สั่งถอนเจ้าหน้าที่ทูตซึ่งไม่ใช่ในส่วนงานฉุกเฉินออกจากอิรักในทันที ท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน หลังเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันและแหล่งผลิตน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ดังกล่าว ประกอบกับเบร็กซิตที่ยังไม่คลี่คลาย ผลักนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันพุธ (15 พ.ค.) ปิดบวก โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,297.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (15 พ.ค.) พุ่งแรง 2 วันติด หลังอเมริกาส่งสารประนีประนอมกว่าเดิมเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าซึ่งช่วยกลบข้อมูลเศรษฐกิจที่เซื่องซึม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 115.97 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,648.02 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.55 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,850.96 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 87.65 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,822.15 จุด
วอลล์สตรีทแกว่งตัวลงในช่วงเปิดตลาด จากข้อมูลค้าปลีกประจำเดือนเมษายน ที่อ่อนแอผิดคาดของสหรัฐฯ แต่จากนั้นก็ฟื้นตัวในช่วงสาย หลังเอเอฟพีรายงานว่าทำเนียบขาวมีแผนชะลอรีดภาษีรถยนต์นำเข้า
นอกจากนี้แล้วตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากคำพูดของสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่บอกกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภาว่าวอชิงตันใกล้คลี่คลายความเห็นต่างกับเม็กซิโกและแคนาดา เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีเหล็กและอลูมิเนียมแล้ว หลังจากมาตรการดังกล่าวสร้างความแตกแยกในหมู่คู่ค้าหลัก
ขณะเดียวกัน มนูชิน ยังแสดงความคาดหมายว่าคณะผู้แทนเจรจาสหรัฐฯ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งอีกครั้งเพื่อหาทางฟื้นการเจรจาที่หยุดชะงักไป โดยมีเป้าหมายคลี่คลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน