เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มีแผนชะลอการปรับเพิ่มพิกัดอัตราศุลกากรรถยนต์นำเข้า ในขณะที่อเมริกากำลังแสวงหาข้อตกลงกับพันธมิตรทางการค้าหลักๆ แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมยานยนต์เปิดเผยกับเอเอฟพีในวันพุธ (15 พ.ค.)
ทรัมป์เคยขู่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรรถยนต์นำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 25% ความเป็นไปได้ที่กระพือความกังวลโดยเฉพาะแก่สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น เช่นเดียวกับเม็กซิโกและแคนาดา
ในขณะที่วันเสาร์นี้ (18 พ.ค.) คือเส้นตายว่าจะประกาศบังคับใช้มาตรการรีดภาษีหรือไม่ บนพื้นฐานความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ แหล่งข่าวเปิดเผยว่าทรัมป์จะชะลอแผนดังกล่าวเอาไว้ก่อนในระหว่างที่ยังคงเจรจากันอยู่
มาตรการขึ้นภาษีเสี่ยงทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างพันธมิตรการค้าหลักกับวอชิงตันระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ในขณะที่เหล่าพันธมิตรทางการค้ายังคงขุ่นเคืองสหรัฐฯ ต่อกรณีรีดภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อปีที่แล้ว
ในวันเดียวกัน ซีเอ็นบีซีและสื่อมวลชนอื่นๆ รายงานโดยยอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาล คาดหมายเช่นกันว่าทรัมป์จะพยายามเจรจาก่อน แล้วถึงค่อยใช้มาตรการทางภาษีใหม่ใดๆ
เหล่าผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันมีความกังวลโดยเฉพาะต่อคำขู่เพิ่มพิกัดอัตราศุลกากร แต่ ทรัมป์และฌอง โคล้ด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศพักรบทางการค้าในเดือนกรกฎาคม 2018 เพื่อหาทางเจรจาระหว่างกัน
เจ้าหน้าที่อียูย้ำว่าพวกเขาคาดหมายว่าสหรัฐฯ จะยึดมั่นข้อตกลงชะลอการรีดภาษีรอบใหม่ใดๆ
ภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ ทรัมป์ต้องตัดสินใจภายใน 90 วัน หลังได้รับรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ในประเด็นที่ว่ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯหรือไม่ ซึ่งเส้นตายก็คือในวันเสาร์นี้ (18 พ.ค.)
หาก ทรัมป์ ตัดสินใจกำหนดมาตรการรีดภาษี มันจะมีผลบังคับใช้ 15 วันหลังการประกาศ อย่างไรก็ตามเขาสามารถชะลอการบังคับใช้ออกไป 180 วัน หากเขาตัดสินใจเดินหน้าเจรจา
ปัจจุบันทำเนียบขาวกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าต่างๆ กับอียูและญี่ป่น หลังจากช่วงปลายปีที่แล้วสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับพันธมิตรการค้าในอเมริกาเหนืออย่างเม็กซิโกและแคนาดา