เอเอฟพี - ครบรอบ 30 ปีกำแพงเบอร์ลินล่มสลายที่นำไปสู่การรวมประเทศ รัฐบาลเยอรมันประกาศวันนี้(15 พ.ค)ว่า เหยื่อเด็กภายใต้อดีตรัฐบาลคอมมิวนิสต์เยอรมันตะวันออกที่ถูกนำไปเลี้ยงในสถาบันของรัฐแต่ไม่สามารถหาหลักฐานพสูจน์ได้ จะได้รับค่าชดเชย
เอเอฟพีรายงานวันนี้(15 พ.ค)ว่า รัฐบาลเยอรมันของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลได้ทำการเปลี่ยนแปลงให้มีการจ่ายค่าชดเชยที่ง่ายขึ้นแก่อดีตเด็กที่ถูกทารุณกรรมภายใต้รัฐบาลคอมมิวนิสต์เยอรมันตะวันออก
ทั้งนี้พบว่า การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่ออกมาจากรัฐบาลเยอรมัน จะช่วยให้ทางรัฐบาลของแมร์เคิลสามารถจ่ายให้กับกลุ่มที่ไม่สามารถหาหลักฐานอธิบายได้ว่า เหตุใดพวกเขาและเธอจึงอยู่ในสถาบันของรัฐเยอรมันตะวันออก
“นี่ถือเป็นสัญญาณที่สำคัญ โดยเฉพาะเกิดขึ้นในปีนี้ซึ่งจะครบรอบ 30ปีของการเฉลิมฉลองการปฎิวัติอย่างสันติที่นำมาสู่การล่มสลายของรัฐบาลคอมมิวนิสต์เยอรมันตะวันออก” รายงานจากแถลงการณ์รัฐบาลเยอรมัน
กำแพงเบอร์ลินถูกสร้างโดยรัฐบาลคอมมิวนิสต์เยอรมันตะวันออกเมื่อวันที่ 13 ส.ค 19651และถูกทำลายลงในเดือนพฤศจิกายน 1991
ทั้งนี้ระหว่างปี 1949 – 1990 เด็กและเยาวชนชาวเยอรมันเกือบครึ่งล้านถูกนำออกจากบ้าน และส่งเข้าสถาบันรัฐเยอรมันตะวันออก ซึ่งพบว่ามีจำนวนร่วม 135,000 คนของทั้งหมดถูกนำเข้าสถาบันพิเศษที่มีชื่อเป็นที่รู้จักว่า “เรือนจำเด็ก” ที่จะมีการล้างสมองให้เด็กเหล่านี้มีแนวคิดที่สอดคล้องไปกับอุดมคติตามอย่างระบอบสังคมนิยม
โดยเป็นไปตามแผนการศึกษาของอดีตสหภาพโซเวียต เด็กๆที่อาศัยอยู่ใน “Jugendwerkhoefe” พบว่าตกเป็นเป้าการทำร้ายร่างกายที่รวมไปถึงการเคี่ยนตี ขังเดี่ยว และให้อดอาหาร
เอเอฟพีชี้ว่า รัฐบาลเยอรมันครั้งแรกได้เสนอเงินเยียวยาต่อเหยื่อเด็กเหล่านี้ในปี 2012 โดยเสนอให้เป็นเงินเกษียณอายุเหยื่อราว 300 ยูโร(340 ดอลลาร์)ต่อเดือน
แต่พบว่ากลับมีจำนวนมากที่มีคุณสมบัติไม่เข้าเป้า เป็นเพราะคนเหล่านี้ขาดเอกสารหลักฐานสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้กฎใหม่ เหยื่อเด็กที่ไม่สามารถหาเอกสารหรือหลักฐานที่อธิบายว่า เหตุใดคนเหล่านี้จึงถูกนำตัวเข้าไปยังสถาบันรัฐจะได้รับเงินเยียวยาในฐานะเป็นเหยื่อถูกทารุณโดยรัฐบาลเยอรมันตะวันออก
และนอกจากนี้เส้นตายของการยื่นเรื่องขอรับเงินชดเชยได้ถูกยกเลิกเช่นกัน เอเอฟพีรายงาน