รอยเตอร์ - พรรคคอนเซอร์เวทีฟภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษมีคะแนนนิยมร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 5 ตามผลสำรวจความคิดเห็นก่อนถึงวันเลือกตั้งรัฐสภายุโรป 23 พ.ค. นี้ ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ เมย์ ระบุวันเวลาที่เธอจะสละเก้าอี้ผู้นำประเทศ
ผลสำรวจของ YouGov ซึ่งจัดทำเพื่อเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เดอะไทม์สพบว่า พรรคเบร็กซิตของ ไนเจล ฟาราจ ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 1 โดยมีคะแนนพุ่งขึ้น 4 จุดมาอยู่ที่ 34% ขณะที่พรรคของ เมย์ ลดลงเหลือแค่ 10% ส่วนพรรคแรงงานฝ่ายค้านก็ลดลง 5 จุดลงไปอยู่ที่ 16%
สำหรับพรรคลิเบอรัลเดโมแครตและพรรคกรีนซึ่งสนับสนุนให้อังกฤษเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไป มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 15% และ 11% ตามลำดับ
คะแนนนิยมของพรรคที่ดิ่งเหวยิ่งเป็นแรงกดดันให้ เมย์ ต้องประกาศวันลาออก โดยมีรายงานว่าแกนนำอาวุโสของพรรคคอนเซอร์เวทีฟต้องการให้เธอชี้แจงแผนสละตำแหน่งนายกฯ ภายในสัปดาห์นี้
แม้จะผ่านมาแล้วเกือบ 3 ปีที่ชาวเมืองผู้ดีได้ลงประชามติ 52% ต่อ 48% ขอถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป แต่จนถึงวันนี้นักการเมืองอังกฤษกลับยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะหย่าขาดจากอียูจริงหรือไม่และอย่างไร
“เวลานี้พรรคเบร็กซิตได้รับคะแนนนิยมล้นหลาม เนื่องจากประชาชนต้องการอาศัยอยู่ในประเทศที่มีประชาธิปไตย” ฟาราจ กล่าว “พวกเราทุกคนถูกหักหลัง ไม่ใช่แค่โดยพรรคคอนเซอร์เวทีฟเท่านั้น แต่รวมถึงพรรคแรงงานด้วย”
อังกฤษเคยมีกำหนดต้องถอนตัวออกจากอียูในวันที่ 29 มี.ค. แต่ เมย์ ไม่สามารถดันข้อตกลงเบร็กซิตให้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาได้ จนต้องหันไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคแรงงานที่นำโดย เจเรมี คอร์บิน
เส้นตายล่าสุดที่อังกฤษจะต้องถอนตัวจากอียูคือวันที่ 31 ต.ค. ทว่าฝ่ายสนับสนุนเบร็กซิตเกรงว่าแผนการทั้งหมดอาจล่มในที่สุด
สตีเวน บาร์เคลย์ รัฐมนตรีกระทรวงเบร็กซิต ระบุในบทความที่เขียนลงหนังสือพิมพ์เดอะซันว่า “เรากำลังเสี่ยงที่เดินละเมอเข้าสู่การเป็นสมาชิกอียูต่อไป”
“ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเชื่อว่ามันจะเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย หากรัฐบาลไม่ใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่เตรียมรับมือความเสี่ยงจากการถอนตัวแบบไร้ข้อตกลง”
บาร์เคลย์ ยังทวีตข้อความในเวลาต่อมาว่า หากต้องเลือกระหว่างถอนตัวแบบไร้ข้อตกลงกับเป็นสมาชิกอียูต่อไป ตนก็จะขอเลือกอย่างแรก