เอเจนซีส์ - เรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติซาอุดีอาระเบีย 2 ลำได้รับความเสียหายจากแผนก่อวินาศกรรมที่นอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) สำนักข่าวทางการซาอุฯ รายงานวันนี้ (13 พ.ค.)
สำนักข่าวเอสพีเออ้างคำแถลงของ คอลิด อัล-ฟาลิห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุฯ ซึ่งเผยว่า เรือบรรทุกน้ำมันซาอุฯ 2 ลำตกเป็นเหยื่อการก่อวินาศกรรมภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของยูเออี นอกชายฝั่งรัฐอัลฟุญัยเราะห์ (หนึ่งในรัฐทั้งเจ็ดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ขณะกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่อ่าวอาหรับ
รัฐบาลยูเออีแถลงยืนยันวานนี้ (12) เช่นกันว่า มีเรือสินค้า 4 ลำจากหลากหลายสัญชาติถูกก่อวินาศกรรมที่นอกชายฝั่งอัลฟุญัยเราะห์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ซึ่งได้ส่งเรือโจมตีหลายลำและเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ B-52 เข้าไปยังอ่าวเปอร์เซียเพื่อตอบโต้คำขู่ของเตหะราน
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ก็กำลังเดินทางไปบรัสเซลส์เพื่อหารือเรื่องอิหร่านกับเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี
ฟาลิห์ ยืนยันว่า แผนก่อวินาศกรรมดังกล่าวไม่ได้ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายหรือเกิดน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเล “แต่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างเรือทั้ง 2 ลำ”
เรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งที่ถูกโจมตีกำลังมุ่งหน้าไปยังท่าเรือราสทานูรา (Ras Tanura) ของซาอุฯ ในอ่าวเปอร์เซีย เพื่อลำเลียงน้ำมันไปส่งแก่ลูกค้าที่สหรัฐอเมริกา
แหล่งข่าวด้านการค้าและการเดินเรือระบุว่า เรือซาอุฯ 2 ลำที่ถูกโจมตีคือเรืออัมจาด (Amjad) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ (VLCC) และเรืออัลมาร์ซอเกาะห์ (Al Marzoqah) โดยทั้งสองลำเป็นเรือของบริษัทบาห์รี (Bahri)
รัฐบาลยูเออีไม่ได้ระบุชัดเจนว่าการโจมตีเรือที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (12) เป็นฝีมือของฝ่ายใด แต่เตือนว่า “การก่อวินาศกรรมต่อยานพาหนะเชิงพาณิชย์และพลเรือน รวมถึงคุกคามชีวิตของลูกเรือ ถือเป็นพัฒนาการที่ร้ายแรง”
อาบูดาบียังเรียกร้องให้มหาอำนาจทั่วโลกช่วยกันปกป้องการสัญจรทางทะเลให้ปลอดภัย
ท่าเรืออัลฟุญัยเราะห์เป็นท่าเรือแห่งเดียวของยูเออีที่ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลอาระเบีย และไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าช่องแคบคอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเป็นเส้นทางที่รัฐอ่าวอาหรับส่วนใหญ่ต้องขนส่งน้ำมันผ่าน และถูกรัฐบาลอิหร่านขู่จะปิดเส้นทางหากเกิดการเผชิญหน้าทางทหารกับสหรัฐฯ
รัฐเอมิเรตเล็กๆ แห่งนี้มีท่าเรือน้ำมันและท่อส่งน้ำมันดิบที่ลำเลียงน้ำมันมาจากอาบูดาบี
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงยืนยันเมื่อวันศุกร์ (10) ว่าได้ส่งเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกและหมู่ขีปนาวุธแพทริออตไปยังตะวันออกกลาง เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งแก่กองเรือบรรทุกเครื่องบินที่กำลังปฏิบัติภารกิจต้านทานภัยคุกคามจากอิหร่าน
สถานการณ์เริ่มทวีความตึงเครียดขึ้น เมื่อเตหะรานออกมาประกาศในวันพุธที่แล้ว (8) ว่าจะยกเลิกการจำกัดกิจกรรมนิวเคลียร์ตามเงื่อนไขของข้อตกลงปี 2015 ที่ทำเอาไว้กับกลุ่มมหาอำนาจ P5+1 โดยอ้างว่าจำเป็นต้องตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของเตหะราน