‘สี จิ้นผิง’ ตรวจพลสวนสนามทางนาวีท่ามกลางหมอกควันมลพิษ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตรวจแถวทหาร ขณะลงเรือพิฆาต “ซีหนิง” ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ณ น่านน้ำทะเลเหลือง นอกเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ทางภาคตะวันออกของแดนมังกร เพื่อเริ่มการตรวจพลสวนสนามทางนาวี เมื่อบ่ายวันที่ 23 เมษายน (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา)

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)

Xi’s big naval parade sails into heavy smog
By Asia Times staff
23/04/2019

สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) ไม่ได้ถ่ายทอดสดการตรวจพลสวนสนามทางเรือครั้งใหญ่คราวนี้ ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ขณะหมอกควันมลพิษลอยปกคลุมเหนือทะเลเหลือง

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ลงเรือพิฆาตติดขีปนาวุธลำหนึ่งของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ที่ทะเลเหลือง (Yellow Sea) เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นประธานในพิธีตรวจพลสวนสนามทางนาวี ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกวาระครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งกองทัพเรือของกองทัพปลดแอกฯ ทว่าบางทีเขาอาจจะมองไม่เห็นอะไรมากนักเมื่อขบวนเรือรบและเครื่องบินรบทันสมัยของแดนมังกรเคลื่อนออกมาอวดโฉม สืบเนื่องจากท้องฟ้ามีเมฆหมอกของเขม่าและขี้เถ้า ลอยกันอยู่ในระดับต่ำ

สีได้กล่าวปราศรัยกับเหล่าทหารของกองทัพเรือแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน และทหารเรือจากกองทัพต่างประเทศจำนวนกว่า 60 ชาติที่เข้าร่วมการตรวจพลสวนสนามครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นในน่านน้ำนอกเมืองท่า “ซิงเต่า” ของมณฑลซานตง ทางภาคตะวันออกของจีน

จากนั้นเขาก็ก้าวลงเรือ “ซีหนิง” (Xining) ที่เป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธ ชั้น ไทป์ 052 ดี (Type 052D) เพื่อเป็นประธานของการสวนสนาม ซึ่งมีเรือ “เหลียวหนิง” (Liaoning) ที่ยังคงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ขึ้นระวางเข้าประจำการแล้วเพียงลำเดียวของจีนในเวลานี้ แล่นเคียงข้างเรือผิวน้ำลำอื่นๆ ตลอดจนเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ ในการสำแดงแสนยานุภาพทางนาวีของปักกิ่งคราวล่าสุดนี้

ถึงแม้การตรวจพลสวนสนามครั้งใหญ่ครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ที่ สี ขึ้นครองอำนาจบริหารประเทศชาติและกุมบังเหียนกองทัพปลดแอกประชาชนจีนเมื่อปี 2012 คราวนี้ จะไม่ขาดไร้บรรยากาศของความเอิกเกริกยิ่งใหญ่ ทว่าก็มีหมอกควันพิษลอยปกคลุมน่านน้ำบริเวณรอบๆ เมืองชิงเต่า นี้แทบจะตลอดทั้งวันนั้นทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นเรือเหลียวหนิง, เรือพิฆาตลำใหม่ที่เป็นชั้นใหม่ นั่นคือ ไทป์ 055 ระวางขับน้ำ 12,000 ตัน, ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆ ที่ทางกองทัพปลดแอกประชาชนจีนภาคภูมิใจ ต่างมองเห็นไม่ค่อยชัดในคลิปวิดีโอข่าวซึ่งออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (China Central Television ใช้อักษรย่อว่า CCTV) เนื่องจากทัศนวิสัยในพื้นที่ดังกล่าวลดฮวบลงมาก โดยมองเห็นเพียงแค่สองสามร้อยเมตรเท่านั้น พิธีตรวจพลสวนสนามครั้งนี้สิ้นสุดลงค่อนข้างเร็วคือในเวลาประมาณ 15.30 น. ทำให้พวกผู้สังเกตการณ์ภายนอกอย่างผู้สื่อข่าวที่รายงานข่าวนี้ของเอเชียไทมส์เกิดความรู้สึกว่า มีการเร่งรัดให้รีบจบท่ามกลางอากาศที่ไม่เป็นใจ

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า มีเรือทั้งหมด 32 ลำ และเครื่องบิน 39 เครื่อง แบ่งกันเป็น 6 กองเรือ แล่นผ่านเรือซีหนิง เพื่อให้ สี ผู้เป็นประธานพิธีตรวจพล
เรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินเพียงลำเดียวของจีนที่ขึ้นระวางประจำการแล้วในเวลานี้ มองเห็นไม่ค่อยชัดท่ามกลางหมอกควันในทะเลเหลือง ระหว่างการสวนสนามเมื่อวันที่ 23 เมษายน (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา)

เรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินเพียงลำเดียวของจีนที่ขึ้นระวางประจำการแล้วในเวลานี้ มองเห็นไม่ค่อยชัดท่ามกลางหมอกควันในทะเลเหลือง ระหว่างการสวนสนามเมื่อวันที่ 23 เมษายน (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา)

เรือ “หนานชาง” ระวางบรรทุก 12,000 ตัน ที่เป็นลำแรกของเรือพิฆาตติดขีปนาวุธชั้น ไทป์ 055 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน และถือเป็นเรือรบผิวน้ำที่ไม่ใช่เรือบรรทุกเครื่องบิน ลำใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยต่อกันมาในเอเชีย ขณะเข้าร่วมการสวนสนามวันที่ 23 เมษายน (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา)

ถึงแม้ก่อนหน้านี้มีข่าวสะพัดว่า เรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ของแดนมังกร (แต่เป็นลำแรกที่จีนต่อขึ้นเอง) จะเข้าร่วมการสวนสนามทางนาวีครั้งนี้ด้วย ทว่าเอาเข้าจริงแล้ว เรือที่เวลานี้ไม่ได้มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่เรียกเป็นชื่อรหัสว่า ไทป์ 001 เอ ลำนี้ ยังคงเทียบอยู่ที่ท่าเรือประจำของตนที่เมืองต้าเหลียน ด้วยเหตุนี้ เรือพิฆาตติดขีปนาวุธ “หนานชาง” (Nanchang) ที่เป็นลำแรกของเรือพิฆาตติดขีปนาวุธชั้นใหม่ของจีนซึ่งใช้ชื่อรหัสว่า ไทป์ 055 จึงเข้ารับหน้าที่เป็นตัวเอกตัวนำในตลอดทั้งพิธีนี้ เรือขนาดใหญ่บิ๊กชั้นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทำหน้าที่คุ้มกันเรือบรรทุกเครื่องบินของแดนมังกร และด้วยระวางขับน้ำกว่า 12,000 ตันจึงทำให้มันกลายเป็นเรือพิฆาตลำใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยต่อกันในเอเชีย อีกทั้งเชื่อกันว่าเป็นเรือพิฆาตชั้นที่ทรงพลังอำนาจเป็นลำดับสองของโลก โดยเป็นรองก็เพียงเรือพิฆาตชั้นซุมวอลต์ (Zumwalt) ของกองทัพเรือสหรัฐฯเท่านั้น

หนังสือพิมพ์จีนหลายๆ ราย รวมทั้ง โกลบอลไทมส์ (Global Times) ที่เป็นแทบลอยด์ในเครือของเหริมหมินรึเป้า (People’s Daily) ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานเอาไว้ล่วงหน้าว่า การตรวจพลสวนสนามคราวนี้ยังจะเป็นโอกาสที่กองทัพเรือจีนจะได้อวดโอ่ทั้ง เรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกชั้น ไทป์ 071 (Type 071 amphibious assault ship), เรือดำน้ำโจมตีพลังนิวเคลียร์ชั้น ไทป์ 095 (nuclear-powered Type 095 attack submarine), และเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น ไทป์ 094 (Type 094 ballistic missile submarine) ทว่ายังคงต้องรอการยืนยันว่าเรือทรงพลังอำนาจทั้งหมดเหล่านี้ได้เข้าร่วมในพิธีนี้หรือไม่ เนื่องจาก ซีซีทีวี ไม่ได้ถ่ายทอดการตรวจพลสวนสนามคราวนี้ อย่างที่ได้ระบุเอาไว้ในกำหนดการก่อนหน้านี้

นอกเหนือจากเรือของจีนแล้ว ยังมีเรือ 16 ลำจากกองทัพของรัสเซีย, ออสเตรเลีย, บังกลาเทศ, บรูไน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย, และเวียดนาม แล่นเข้าสู่น่านน้ำจีนเพื่อเข้าร่วมพิธีนี้ โดยที่สื่อจีนตีความว่าเรื่องนี้เป็นการแสดงออกซึ่งความสามัคคีและความปรองดอง

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงส่งเรือมาเข้าร่วมพิธีแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งกองทัพเรือของจีน ถึงแม้ประเทศเหล่านี้หลายรายมีกรณีพิพาททางดินแดนกับจีน ในน่านน้ำทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้
ธงชาติจีนและธงกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ถูกชักขึ้นเหนือเรือดำน้ำจีนลำหนึ่ง (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา)