xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ-จีนเปิดเจรจาทำข้อตกลงท่ามกลางเสียงขู่ตอบโต้ทำสงครามการค้า ปักกิ่งฮึ่มไม่อ่อนข้อต่อแรงกดดันใดๆ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

(แฟ้มภาพ) หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน, สตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ, โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯและเทอร์รี แบรนสตัด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำปักกิ่ง พูดคุยกันหลังเสร็จสิ้นการเจรจาทางการค้าที่เตี้ยวอวี่ไถ สเตท เกสท์เฮาส์ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2019
เอเจนซีส์ - คณะผู้เจรจาของสหรัฐฯและของจีน กำหนดเริ่มการหารือต่อรองเป็นรอบที่ 11 ในกรุงวอชิงตันวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) เพื่อทำดีลทางการค้าระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศของการข่มขู่และการตอบโต้กัน โดยที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำว่าจีนถอยหลังกลับจากข้อเสนอที่ตกลงกันไปแล้วระหว่างการเจรจารอบก่อนๆ และหากยังไม่มีอะไรออกมา อเมริกาก็จะเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าแดนมังกรในวันศุกร์ (10) นี้ตามที่ได้ประกาศเอาไว้ ขณะที่ปักกิ่งแถลงปฏิเสธว่าไม่ได้ “เบี้ยว” อย่างที่วอชิงตันกล่าวหา พร้อมเตือนว่าจะตอบโต้โดยจะไม่ “ยอมอ่อนข้อทำตามแรงกดดันใดๆ”

ภายหลังการประชุมต่อรอง 10 รอบที่ดูเหมือนเป็นไปฉันเพื่อนร่วมงานในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้คณะผู้แทนของจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ หวนกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกรอบหนึ่งในวันพฤหัสบดี (9) และวันศุกร์ (10) นี้ ณ เมืองหลวงของสหรัฐฯ ท่ามกลางบรรยากาศอันร้อนฉ่าตึงเครียด หลังจากที่ทั้งทรัมป์และหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐฯ อันได้แก่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ และรัฐมนตรีคลัง สตีฟ มนูชิน ต่างออกมากล่าวหาว่าปักกิ่งตระบัดสัตย์ไม่รักษาคำมั่นสัญญาที่ได้ตกลงเอาไว้ในการเจรจารอบก่อนๆ

ในวันพุธ (8) สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ออกประกาศมาตรการตามที่ทรัมป์ได้เคยทวิตบอกเอาไว้แล้ว นั่นคือสินค้าเข้าของจีนล็อตที่มีมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์ และได้ถูกสหรัฐฯจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นในอัตรา 10% ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว จะถูกเก็บภาษีเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่เวลา 00.01 น.วันศุกร์ (10) หรือก็คือในระหว่างที่คณะผู้แทนจีนยังไม่ทันเจรจากับฝ่ายสหรัฐฯเสร็จสิ้นตามกำหนดการ

ทางด้านทรัมป์เอง ก็ปราศรัยต่อที่ชุมนุมหาเสียงในรัฐฟลอริดาเมื่อวันพุธ (8) เช่นกัน โดยกล่าวหาจีนว่า เบี้ยวสิ่งที่ได้เคยสัญญาไว้ระหว่างการเจรจาการค้ารอบก่อนๆ ซึ่งหากตกลงกันไม่ได้ อเมริกาจะขึ้นภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจีนจนกว่าจีนจะหยุดโกงแรงงานอเมริกันและปล้นตำแหน่งงานไปจากอเมริกา

ในส่วนของจีนนั้น กระทรวงพาณิชย์จีนได้แถลงตอบโต้บนเว็บไซต์ตั้งแต่วันพุธ (8) ว่า จีนเตรียมพร้อมเต็มที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติในสงครามการค้า แต่ยังหวังว่า อเมริกาจะสามารถแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาแทนการใช้มาตรการตามอำเภอใจฝ่ายเดียว

ต่อมาในวันพฤหัสบดี (9) เกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า ปักกิ่งคัดค้านการขึ้นภาษีศุลกากรฝ่ายเดียว และจะไม่ยอมจำนนต่อการกดดันใดๆ พร้อมกับสำทับว่า การบรรลุข้อตกลงจำเป็นต้องมีความพยายามจากทั้งสองฝ่าย โดยที่จีนได้แสดงความจริงใจอย่างชัดเจนด้วยการส่งคณะผู้แทนทางการค้าไปยังวอชิงตัน ถึงแม้อเมริกาข่มขู่ว่าจะขึ้นภาษีก็ตาม

สองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกคู่นี้ขับเคี่ยวในสงครามการค้าที่สู้รบกันโดยการขึ้นพิกัดอัตราศุลกากรต่อสินค้าเข้าของอีกฝ่ายหนึ่งตอบโต้กันไปมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว สืบเนื่องจากความไม่พอใจของทรัมป์ที่เห็นสหรัฐฯขาดดุลการค้าจีนเป็นจำนวนมหาศาล บวกกับข้อเรียกร้องของวอชิงตันที่ต้องการให้ปักกิ่งเปลี่ยนโยบายเพื่อปกป้องสินทรัพย์ทางปัญญาของอเมริกาอย่างดียิ่งขึ้น และเปิดตลาดรับบริษัทอเมริกันมากขึ้น

ก่อนหน้านี้มีความคาดหวังอย่างสูงว่า สองประเทศจะบรรลุข้อตกลงกันได้ จนกระทั่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทรัมป์ทวิตโจมตีว่า ปักกิ่งละเมิดสัญญาที่ให้ไว้ ขณะที่แหล่งข่าวทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐของอเมริกาต่างให้ข่าวกับสื่อตะวันตกเมื่อวันพุธว่า จีนกลับลำเกือบทุกประเด็นในร่างข้อตกลงการค้าและขู่ล้มการเจรจา ทรัมป์จึงบันดาลโทสะและประกาศเตรียมขึ้นภาษีปลายสัปดาห์นี้

วันเดียวกันนั้น ทรัมป์ยังเตือนว่า คงเป็นความผิดพลาดร้ายแรงถ้าปักกิ่งหวังว่า จะเตะถ่วงข้อตกลงการค้าเพื่อรอให้พรรคเดโมแครตหรืออดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่อ่อนปวกเปียกเข้าควบคุมทำเนียบขาว ซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ดี เขาบอกด้วยว่าอเมริกายังได้รับแจ้งว่า รองนายกรัฐมนตรีหลิวของจีนเดินทางมาวอชิงตันครั้งนี้เพื่อทำข้อตกลง กระนั้นก็ทรัมป์ก็ไม่วายสำทับว่า จะมีความสุขมากถ้าได้โกยภาษีศุลกากรจากจีนปีละกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์

ทางด้านเคต เบดิงฟิลด์ รองผู้จัดการทีมหาเสียงของไบเดน โต้กลับทันทีทางทวิตเตอร์ว่า เกษตรกร เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และผู้บริโภคอเมริกัน คือผู้ที่ได้รับเคราะห์จากการตอบโต้กันด้วยภาษีศุลกากรระหว่างอเมริกากับจีน ทั้งนี้ก็สอดคล้องกับความเห็นของพวกนักวิชาการที่บอกว่า ผู้ที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายภาษีศุลกากรเพิ่ม คือพวกผู้นำเข้าอเมริกัน แล้วจากนั้นคนเหล่านี้ก็จะผลักภาระบางส่วนให้ผู้บริโภคอเมริกันช่วยแบก ถึงแม้เท่าที่ผ่านมา ยังไม่ค่อยได้ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอะไรกันเท่าใดนัก

ข้อเรียกร้องที่วอชิงตันกำลังพยายามกดดันให้ปักกิ่งกระทำนั้น เป็นการเรียกร้องให้จีนเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติด้านการค้าและการควบคุมบังคับของภาครัฐอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งรวมถึงการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ จากการถูกขโมยและการบังคับถ่ายโอนให้บริษัทจีน การจำกัดมาตรการอุดหนุนของทางการจีนต่อรัฐวิสาหกิจแดนมังกร ฯลฯ นอกจากนั้น ทรัมป์ยังเรียกร้องให้จีนสั่งซื้อสินค้าเกษตร พลังงาน และผลิตภัณฑ์อุสาหกรรมของอเมริกาเพิ่มเพื่อลดยอดขาดดุลการค้าของอเมริกาที่มีต่อจีน

แหล่งข่าววงในในการเจรจาเผยว่า ข้อเรียกร้องล่าสุดของปักกิ่งซึ่งจะให้เปลี่ยนแปลงเอกสาร 150 หน้าที่ร่างขึ้นตลอดหลายเดือนของการหารือ อาจทำให้จีนหลีกเลี่ยงการถูกขึ้นภาษีในวันศุกร์นี้ได้ยาก และมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าสินค้าจีนตั้งแต่โมเดมคอมพิวเตอร์และเราเตอร์ไปจนถึงเครื่องดูดฝุ่น เฟอร์นิเจอร์ หลอดไฟ และวัสดุก่อสร้าง

สก็อตต์ เคนเนดี ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนของศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษา (ซีเอสไอเอส) ในวอชิงตัน ชี้ว่า การเจรจามาถึงขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน และขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่หลิวนำมาแสดงต่อวอชิงตัน เขายังเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองฝ่ายจะคำนวณสถานการณ์ผิดพลาด เนื่องจากต่างคิดว่า ฝ่ายตัวเองอยู่ในสถานะที่ดีกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น