เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(8 พ.ค) คณะกรรมาธิการยุติธรรมประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีมติด้วยเสียง 24 ต่อ 16 ให้วิลเลียม บาร์(William Barr) รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯมีความผิดฐานละเมิดอำนาจสภาคองเกรส ส่งผลทำให้เกิดความขัดแย้งทางรัฐธรรมนูญระหว่างรัฐบาลทรัมป์และสภาคองเกรสที่้ฝ่ายพรรคเดโมแครตคุม
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(8 พ.ค)ว่า การออกเสียงในวันพุธ(8) เป็นไปตามมติพรรคด้วยเสียงเห็นชอบ 24 ต่อ 16 ของคณะกรรมาธิการยุติธรรมสหรัฐฯให้รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯมีความผิดละเมิดอำนาจสภาคองเกรส (in contempt of Congress) ในปัญหาการเปิดเผยรายงานสอบสวนคดีรัสเซียยุ่งการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2016
โดยในช่วงเช้าก่อนโหวตพบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อ้างถึงเอกสิทธิ์ของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ( executive privilege) ที่มีเหนือรายงานการสอบสวนมุลเลอร์รวมไปถึงหลักฐาน รวมไปถึงการคุกคามที่มีต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯในคืนก่อนหน้าหากว่าทางคณะกรรมาธิการประจำสภาล่างสหรัฐฯจะยังคงเดินหน้าให้มีการออกเสียง
ซึ่งการโหวตละเมิดอำนาจและการอ้างใช้อำนาจเอกสิทธิ์ยิ่งเป็นการสุมไฟในความขัดแย้งให้คุกรุ่นระหว่างสภาล่างพรรคเดโมแครตและรัฐบาลสหรัฐฯต่อการสอบสวนต่างๆของพรรคเดโมแครต ซึ่งทางทรัมป์ประกาศที่จะขัดขวางการเรียกตัวเข้าให้การทั้งหมด ส่วนพรรคเดโมแครตตอบโต้ด้วยการชี้ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรสอาจส่งผลนำไปสู่การพิจารณาการถอดถอนตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ
วิลเลียม บาร์(William Barr) จะกลายเป็นคนแรกในรัฐบาลทรัมป์ที่ถูกสภาล่างสหรัฐฯภายใต้การนำพรรคเดโมแครตมีมติชี้ละเมิดอำนาจ และในเวลานี้เรื่องจะถูกส่งไปให้ 2 สภาร่วมสภาคองเกรสเพื่อโหวต และแน่นอนที่สุดจะนำไปสู่ศาลในเวลาต่อมา เป็นความพยายามผลักดันของฝ่ายพรรคเดโมแครตเพื่อให้มีการเปิดเผยรายงานการสอบสวนฉบับเต็มและหลักฐานของอัยการพิเศษสหรัฐฯ โรเบิร์ต มุลเลอร์
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้แจ้งต่อทางคณะกรรมาธิการไม่กี่นาทีก่อนการพิจารณาการละเมิดอำนาจในวันพุธ(8)ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ใช้อำนาจเอกสิทธิ์ทางบริหารที่มีต่อเอกสารทั้งหมดที่ทางประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมสหรัฐฯ เจอร์รี แนดเลอร์ (Jerry Nadler) ได้ออกคำสั่งเรียก
โดยทางโฆษกทำเนียบขาว ซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ส แถลงว่า "เผชิญหน้าต่อการใช้อำนาจมิชอบอย่างท้าทายของประธานคณะกรรมาธิการแนดเลอร์ และตามคำขอของรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ทำให้ทางประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้อำนาจเอกสิทธิ์ฝ่ายบริหารเข้าปกป้อง"
แต่อย่างไรก็ตาม แนดเลอร์ตอบโต้ด้วยการดำเนินการให้มีการออกเสียงในที่สุด CNNรายงาน
บีบีซี สื่ออังกฤษชี้ว่า ในรายงานการสอบสวนของมุลเลอร์จำนวน 448 หน้าไม่ได้สรุปว่ามีการสมคบคิดที่ผิดกฎหมายระหว่างมอสโกและทีมหาเสียงของทรัมป์ที่ส่งผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 แต่ทว่าในรายงาน มุลเลอร์ได้ระบุถึง 10 ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทรัมป์พยายามจะขัดขวางการสอบสวน
ทั้งนี้ก่อนหน้าคณะกรรมาธิการข่าวกรองสหรัฐฯประจำสภาสูงสหรัฐฯได้ออกคำสั่งเรียกบุตรชายประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เข้าให้การ ถือเป็นการสั่งครั้งแรกที่มีต่อสมาชิกครอบครัวผู้นำสหรัฐฯ
โดยทรัมป์จูเนียร์ถูกคาดว่าต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการให้การที่เข้าได้ให้ต่อทางคณะกรรมาธิการสภาสูงเมื่อกันยายน ปี2017 ที่มีความขัดแย้งกับสิ่งที่ทางอดีตทนายความประธานาธิบดีทรัมป์ ไมเคิล โคเฮน ให้ไว้
เขาคาดว่าจะต้องถูกให้ตอบคำถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวเองและรัสเซีย