เอเอฟพี – องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ออกรายงานเตือนวานนี้ (8 พ.ค.) ว่าวิกฤตความอดอยากกำลังทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคตะวันออกใกล้และแอฟริกาเหนือ โดยมีประชากรกว่า 52 ล้านคนที่ป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ขัดแย้ง
FAO ระบุว่า ความขัดแย้งและวิกฤตที่ยืดเยื้อได้แผ่ขยายและทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2011 จนกลายเป็นอุปสรรคต่อความพยายามขจัดปัญหาความหิวโหยในภูมิภาคดังกล่าว
"ประชากร 52 ล้านคนในภูมิภาคเหล่านี้กำลังทุกข์ทรมานจากภาวะขาดสารอาหารเรื้อรัง” FAO แถลง พร้อมระบุว่า 2 ใน 3 ของกลุ่มคนเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีการสู้รบ เช่น อิรัก ซูดาน ซีเรีย และเยเมน
องค์การสหประชาชาติชี้ว่า สงครามกลางเมืองเยเมนได้ก่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก โดยมีประชากร 3.3 ล้านคนต้องพลัดถิ่นฐาน และ 24.1 ล้านคนต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
อับเดสสลาม อูลด์ อาเหม็ด ผู้แทน FAO ในกรุงไคโร ชี้ว่า ความขัดแย้งในตะวันออกใกล้และแอฟริกาเหนือมีผลกระทบต่อเนื่องต่อสถานการณ์ความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการในประเทศใกล้เคียง
“ความขัดแย้งได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหารและปศุสัตว์ในบางประเทศ และยังแผ่ลามไปถึงปริมาณอาหารของทั้งภูมิภาคด้วย” เขากล่าว
นอกจากการสู้รบแล้ว FAO ชี้ว่า วิกฤตความหิวโหยที่ทวีความรุนแรงยังมีสาเหตุมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่เพียงพอ รวมถึงผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
FAO เรียกร้องให้ทุกประเทศช่วยกันตอบสนองวิกฤตครั้งนี้โดยการปฏิรูปด้านการเกษตรอย่างยั่งยืน และขอให้รัฐบาลสนับสนุนเกษตรกรให้สามารถเข้าถึงตลาด รวมถึงส่งเสริมการลงทุน นวัตกรรมด้านการเกษตร และการจัดการทรัพยากรน้ำ