รอยเตอร์ - บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สชี้วันนี้(6 พ.ค)ว่า ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้ว่า รองนายกรัฐมนตรีจีน หลิว เหอ (Liu He)อาจไม่เดินทางไปคุยการค้ากับสหรัฐฯสัปดาห์นี้ หลังผู้ทรัมป์ประกาศขู่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ 25% มูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์ปลายสัปดาห์นี้ รวมถึงที่มีเป้าหมายอีกร่วมหลายร้อยพันล้านดอลลาร์ตามมาในไม่ช้า
รอยเตอร์รายงานวันนี้(6 พ.ค)ว่า การประกาศจะขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างแรงกดดันครั้งสำคัญให้ขึ้นอีกครั้งระหว่างชาติมหาอำนาจที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลไปถึงตลาดหลักทรัพทย์และราคาน้ำมันของโลกที่เห็นว่า ราคาหุ้นตกลง ส่วนราคาน้ำมันสะเทือนเนื่องมาจากการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯนั้นถูกทำให้สงสัยว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ซึ่งสื่อธุรกิจวอลสตรีทเจอร์นัลรายงานว่า ทางจีนอยู่ในระหว่างการพิจารณายกเลิกการเจรจาการค้าที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เนื่องมาจากการแสดงความเห็นของทรัมป์ที่นำมาซึ่งความแปลกใจให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่จีน
โดยทางผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์ (Robert Lighthizer) ออกมาชี้ว่า ทางฝ่ายจีนได้ถอนข้อผูกพันบางส่วนที่ทำไว้ครั้งก่อนส่งผลทำให้เกิดการตัดสินใจอย่างฉับพลันจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ
“ข้อตกลงการค้ากับจีนยังคงดำเนินต่อ แต่มีความคืบหน้าช้ามาก จากการที่พวกเขาพยายามที่จะกลับมาเจรจาใหม่อีกครั้ง “ไม่!” ทรัมป์กล่าวผ่านแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นที่ว่า ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนจะเดินทางมาร่วมการประชุมทางการค้าสัปดาห์นี้หรือไม่
โดยทั้งทำเนียบขาวและสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯปฎิเสธที่จะแสดงความเห็น ส่วนกระทรวงพาณิชย์จีนยังไม่ได้ตอบคำถามในการขอความเห็นในประเด็นนี้เช่นกัน
“บรรยากาศของการเจรจาได้เปลี่ยนไป” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่จีนที่รู้ในเรื่องนี้ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ และกล่าวต่อว่า “ทั้งหมดทั้งมวลต้องขึ้นอยู่กับทัศนคติของสหรัฐฯ”
การออกมาข่มขู่ของทรัมป์ที่จะขึ้นภาษีกับสินค้าจีนรอบใหม่มูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์ และรวมไปถึงจะมีอีกหลายร้อยพันล้านดอลลาร์ตามมานั้นทำให้บรรณาธิการบริหารของหนังสือจีนที่ทรงอิทธิพล โกลบอลไทม์ส หู สีจิน(Hu Xijin) ได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์ในวันนี้(6)ว่า รองนายกรัฐมนตรีจีน หลิว เหอ (Liu He) อาจไม่เดินทางไปเยือนสหรัฐฯสัปดาห์นี้
“ขอให้ทรัมป์ขึ้นภาษีไป แล้วมาดูกันว่าการเจรจาการค้าจะกลับมาคุยต่อได้อีกครั้งเมื่อไหร่” หูกล่าว
ในขณะที่สำนักข่าวจีนได้รับการเตือนไม่ให้รายงานถึงการทวีตในชั่วข้ามคืนของทรัมป์ หรือทวีตเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น แต่สั่งให้รายงานในสิ่งที่สำนักข่าวทางการจีน ซินหวา ส่งออกมา แหล่งข่าวที่รู้เรื่องนี้โดยตรงเปิดเผย
รอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่า ภาษีศุลกากรของสินค้าจีนมูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์จะถูกปรับขึ้น 25% ในวันศุกร์(10) จากเดิมอยู่ที่ 10%
ถือเป็นการกลับการตัดสินใจของตัวเขาเองเมื่อกุมภาพันธ์ที่ยืนยันว่าจะยอมให้คงอยู่ที่ 10% โดยอ้างไปถึงความคืบหน้าในการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังกล่าวว่า เขามีเป้าหมายต่อสินค้าจีนอีกที่มีมูลค่ารวม 325 พันล้านดอลลาร์ด้วยอัตราภาษีศุลกากร 25% ในเร็ววัน ซึ่งครอบคลุมอย่างสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่จะถูกนำเข้าสหรัฐฯจากจีน
โดยในการแถลงผ่านทางทวิตเตอร์ ทรัมป์ยังโยงไปถึงการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2020 ของตัวเอง ทรัมป์ชี้ว่า มาตรการเหล่านี้จะไม่นำไปสู่การเพิ่มราคาสำหรับบรรดาผู้บริโภคชาวอเมริกัน
“ภาษีศุลการกรที่จ่ายให้สหรัฐฯนั้นมีผลกระทบที่น้อยมากต่อต้นทุนของสินค้า ที่ส่วนใหญ่ภาระจะตกอยู่กับทางจีน”
แต่ในความเป็นจริงแล้ว รอยเตอร์ชี้ว่า ภาษีศุลกากรที่ถูกจ่ายให้รัฐบาลสหรัฐฯนั้นมาจากบริษัทที่เป็นผู้นำเข้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ในขณะที่ผู้สนับสนุนนโยบายทรัมป์ให้จัดการธรรมเนียมปฎิบัติทางการค้าของจีนต้องการอยากเห็นให้มีการยกเลิกภาษีศุลการกรมากกว่าที่จะให้มีการขึ้นอัตราภาษีทางการค้า
ด้านไต้ ฮุย( Tai Hui ) หัวหน้ายุทธศาสตร์ทางการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัทการจัดการหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน (J.P. Morgan Asset Management) แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า
“จากที่เราได้เรียนรู้เมื่อปีที่แล้ว ปักกิ่งสามารถยอมที่จะเดินออกไป หากทางสหรัฐฯเล่นแง่ใช้แทคติกที่พวกเขาไม่ชอบ ที่กล่าวได้ว่า ทั้งสองฝ่ายได้ลงทุนด้านเวลาเป็นอย่างมาก และรวมไปถึงทรัพยากรต่างๆจนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้...”
ซึ่งในวันศุกร์(3) ผู้นำสหรัฐฯแสดงความชื่นชมถึงความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับจีน ในขณะที่รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีฟ มนูชิน ระบุถึงรอบการเจรจาการค้าที่ถูกจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งนั้น “สร้างสรรค์” และหนึ่งในเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ได้มีการดูถึงวันเวลาของการหารือระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงในเดือนมิถุนายน