เอเจนซีส์ - ม็อบเวเนซุเอลาสังเวยอีก 1 ชีวิตระหว่างการประท้วงใหญ่วันแรงงาน (1 พ.ค.) ที่ผู้นำฝ่ายค้าน ฮวน กวยโด อ้างว่า มีคนนับล้านร่วมชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล ขณะที่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร กล่าวหาจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ชักใยกวยโดก่อรัฐประหาร ด้านวอชิงตันกับมอสโกโทษกันวุ่นวายว่า แทรกแซงสถานการณ์ในประเทศละตินอเมริกาแห่งนี้ ส่วนจีนออกคำแถลงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเวเนซุเอลาแก้ปัญหาอย่างสันติ
กวยโดเรียกร้องผู้สนับสนุน “เดินขบวนครั้งใหญ่ที่สุด” ในประวัติศาสตร์ของเวเนซุเอลา ในวันแรงงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และทวิตว่า มีคนหลายล้านชุมนุมกันอยู่บนท้องถนนใน “ขั้นตอนสุดท้าย” เพื่อขับไล่มาดูโร รวมทั้งประกาศว่า ยังจะมีการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ในวันพฤหัสบดี (2)
ทว่า พอถึงช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันพุธ ผู้ชุมนุมจำนวนมากในกรุงการากัสเริ่มทยอยกลับบ้าน และกองกำลังพิทักษ์ชาติของรัฐบาลระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วงที่ยังรวมตัวกันอยู่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 คน ขณะที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในท้องถิ่นรายงานว่า หญิงสาวคนหนึ่งถูกยิงที่ศีรษะขณะร่วมชุมนุมในเมืองหลวง และเสียชีวิตระหว่างการผ่าตัด นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 46 คน
การชุมนุมในวันแรงงานถือเป็นการเผชิญหน้าวันที่สองระหว่างฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกับกองกำลังความมั่นคงของมาดูโร โดยในวันแรกนั้นมีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บอีกนับสิบ นอกจากนั้นยังมีผู้ถูกจับกุมกว่า 150 คน
การเรียกร้องของกวยโดให้กองทัพแปรพักตร์มาอยู่ข้างประชาชนยังคงล้มเหลวโดยสิ้นเชิง กระนั้น ประธานสมัชชาแห่งชาติผู้นี้ยืนกรานให้ผู้สนับสนุนเดินหน้าประท้วงต่อ ทั้งที่ไม่มีความชัดเจนว่า เขาจะพลิกเกมอย่างไร เพราะที่ผ่านมาแม้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสามารถปลุกเร้าให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถโค่นล้มมาดูโรได้ เนื่องจากกองทัพยังคงจงรักภักดีต่อมาดูโร
ผู้สนับสนุนบางส่วนบอกว่า พร้อมสู้ต่อ แต่บางคนเริ่มแสดงความสับสนระคนความไม่พอใจ เพราะไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ นับจากที่กวยโดอ้างว่า มาดูโรโกงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงขอใช้สิทธิอย่างชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลตั้งแต่เมื่อกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา
ทางด้านมาดูโรที่จัดการชุมนุมผู้สนับสนุนฝ่ายตนในกรุงการากัสเมื่อวันพุธเช่นเดียวกัน ประกาศว่า ไม่ลังเลที่จะกักขังผู้ที่พยายามก่อรัฐประหารโค่นล้มอำนาจของเขา และยังกล่าวหาว่า จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ชักใยอยู่เบื้องหลัง
ด้าน อันโตนิโอ กูเตียเรส เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงเตือนรัฐบาลเวเนซุเอลาไม่ให้ใช้กำลังกับผู้ประท้วง
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในประเทศละตินอเมริกาแห่งนี้ก็กำฃังทำให้อเมริกาและรัสเซียปีนเกลียวหนักข้อ
กวยโดนั้นได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา ชาติตะวันตก และประเทศละตินอเมริกาส่วนใหญ่ ขณะที่มาดูโรมีรัสเซีย จีน และคิวบาหนุนหลัง
คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันด้วยการเพิ่มมาตรการแซงก์ชันรัฐบาลมาดูโร ในวันพุธ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ยังออกมาแถลงย้ำว่า ถ้าจำเป็นก็พร้อมใช้ปฏิบัติการทางทหาร ขณะที่กระทรวงกลาโหมอเมริกันแบ่งรับแบ่งสู้เกี่ยวกับการเตรียมการเข้าแทรกแซงในเวเนซุเอลาโดยตรง แต่ยอมรับว่า กำลังวางแผนฉุกเฉินอย่างละเอียด
นอกจากนั้นโบลตัน ที่รู้กันว่า มีนโยบายต่างประเทศสายเหยี่ยว ยังสำทับว่า เวเนซุเอลาอยู่ในซีกโลกเดียวกับอเมริกา ดังนั้น รัสเซียไม่ควรเข้าไปแทรกแซง
ทว่า เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เตือนพอมเพโอระหว่างสนทนากันทางโทรศัพท์ว่า การรุกรานเวเนซุเอลาเป็นสิ่งที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและจะทำให้เกิดผลลัพธ์เลวร้าย และพอมเพโอตอกกลับว่า มอสโกต่างหากที่แทรกแซงกิจการเวเนซุเอลา
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคาร (30 เม.ย.) พอมเพโอให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นอ้างว่า มาดูโรเตรียมเดินทางออกนอกประเทศแล้วแต่ถูกรัสเซียเกลี้ยกล่อมให้อยู่ต่อ ซึ่งเรื่องนี้ทั้งผู้นำเวเนซุเอลาและเครมลินต่างปฏิเสธ
ในวันพฤหัสบดี (2) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในเวเนซุเอลาเห็นแก่ประชาชนและแก้ปัญหาอย่างสันติด้วยการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดและฟื้นเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด