เอเจนซีส์ - อาบู บักร์ อัล-บักดาดี ผู้นำกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 5 ปีในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (29 เม.ย.) โดยมีการยอมรับความพ่ายแพ้ในเมืองบากูซของซีเรีย แต่ขณะเดียวกันก็ประกาศเดินหน้าโจมตีศัตรูต่อ และอวดอ้างว่า เหตุระเบิดในวันอีสเตอร์ที่ศรีลังกาเป็นการล้างแค้นให้นักรบในบากูซ
ในวิดีโอความยาว 18 นาทีที่เผยแพร่โดยเครือข่าย อัล เฟอร์กัน ของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) บักดาดี บุคคลซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก และถูกอเมริกาตั้งค่าหัวถึง 25 ล้านดอลลาร์ กล่าวว่า การโจมตีโบสถ์และโรงแรมในศรีลังกาเมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 250 คนนั้น เป็นการล้างแค้นให้นักรบที่ตายในบากูซ ซึ่งเป็นที่มั่นสุดท้ายของไอเอส พร้อมประกาศว่า จะแก้แค้นให้สมาชิกที่ถูกสังหารและคุมขังในสมรภูมิอื่นๆ รวมถึงเรียกร้องให้นักรบในแอฟริกาตะวันตกโจมตีฝรั่งเศสและพันธมิตร และบอกว่า ปฏิบัติการโจมตีตะวันตกเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้อันยาวนาน
ทั้งนี้ "ไซต์ อินเทลลิเจนต์ กรุ๊ป" รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ไอเอสอ้างว่าได้โจมตีตำรวจในกรุงธากาด้วยระเบิด ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และถือเป็นการโจมตีบังกลาเทศครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีของกลุ่มก่อการร้ายนี้
บักดาดียังระบุว่า นับจากการสูญเสียในเมืองบากูซเมื่อเดือนมีนาคม ไอเอสได้เปิดการโจมตี 92 ครั้งใน 8 ประเทศ และยืนยันว่า นักรบญิฮาดไม่ได้ยอมจำนนแม้พ่ายแพ้ในหลายพื้นที่ อ้างพระอัลเลาะห์บัญชาให้ทำสงครามศาสนา แต่ไม่ได้บัญชาให้ไอเอสชนะ
วิดีโอนี้ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของบักดาดีนับจากเผยแพร่คลิปที่ถ่ายทำในเมืองโมซุลของอิรักเมื่อปี 2014 เพื่อประกาศการสถาปนารัฐอิสลามที่มีพื้นที่ยึดครองกว้างขวางในอิรักและซีเรีย ส่วนแถลงการณ์หลังจากนั้นอยู่ในรูปเทปบันทึกเสียง
ในวิดีโอล่าสุด บักดาดีที่แข็งแรงดีแต่ดูมีอายุมากขึ้น หนวดเครายาวสีเทาและย้อมสีแดงด้านล่าง นั่งขัดสมาธิพูดกับผู้ช่วยสามคนที่ทำภาพเบลอไม่ให้เห็นหน้าชัดเจน มีปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟเหมือนปืนของ อุสซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำกลุ่มอัล-กออิดะห์ที่ลาโลกไปแล้ว พาดอยู่ที่ผนังด้านหลัง
บักดาดีแสดงความยินดีต่อการโจมตีของนักรบในลิเบียเมื่อต้นเดือนเมษายนในเมืองฟูกาฮาก่อนล่าถอยออกมา รวมถึงนักรบในบูร์กินาฟาโซและมาลี ที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส และขอให้พระอัลเลาะห์ปกป้องนักรบเหล่านั้นและอาบู วาลิด อัล-ซาฮราวี ผู้นำไอเอสในเกรทเตอร์ซาฮารา พร้อมแนะนำให้นักรบมูจาฮีดีนบดขยี้ประชาชน กองทัพ เศรษฐกิจ และศักยภาพด้านลอจิสติกส์ของศัตรู
ในช่วงท้ายของวิดีโอ ผู้ช่วยคนหนึ่งส่งแฟ้มให้บักดาดี ซึ่งบนแฟ้มเหล่านั้นมีป้ายชื่อประเทศและภูมิภาคที่นักรบไอเอสซ่องสุมอยู่ อาทิ โซมาเลีย คาบสมุทรไซนายในอียิปต์ แอฟริกาตะวันตก เยเมน ลิเบีย
ทั้งนี้ ช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด ไอเอสปกครองคนนับล้านในพื้นที่ยึดครองจากทางเหนือของซีเรียไปจนถึงอิรัก แต่หลังจากเสียโมซุลและรอกเกาะห์ ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญในอิรักและซีเรียเมื่อปี 2017 สถานะกาหลิบหรือประมุขอาณาจักรอิสลามที่บักดาดีสถาปนาตัวเอง ก็แปรเปลี่ยนเป็นผู้หลบหนีความผิด โดยเชื่อกันว่า เขาย้ายที่กบดานไปเรื่อยๆ บริเวณทะเลทรายชายแดนอิรักกับซีเรีย
สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอล่าสุดของผู้นำไอเอส ขณะที่ ฌอน โรเบิร์ตสัน ผู้บัญชาการกองทัพเรือและโฆษกกระทรวงกลาโหมระบุเพนตากอนรับรู้ว่า มีการเผยแพร่วิดีโอดังกล่าวและยังคงสนับสนุนกองกำลังพันธมิตรในการติดตามกวาดล้างไอเอส
ทางด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า แม้บักดาดียังมีชีวิตอยู่ แต่การสูญเสียพื้นที่ยึดครองในอิรักและซีเรีย การล่มสลายของอาณาจักรอิสลาม การเสียชีวิตหรือหนีกระเจิดกระเจิงจากสนามรบของบรรดาผู้นำกลุ่ม ส่งผลกระทบรุนแรงต่อไอเอสทั้งในแง่กลยุทธ์และจิตวิทยา
ที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศของอเมริกาได้สังหารผู้ช่วยสำคัญของบักดาดีหลายคน อาทิ รัฐมนตรีสงคราม อาบู โอมาร์ อัล-ชิชานี, ผู้ว่าการอิรัก อาบู มุสลิม อัล-เติร์กมานี, โฆษกกลุ่ม อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-อัดนานี และผู้ว่าการซีเรีย อาบู อาลี อัล-อันบารี
อย่างไรก็ตาม แม้เสียที่มั่นสุดท้ายในซีเรียเมื่อเดือนมีนาคม แต่ไอเอสยังมีเครือข่ายนักรบที่กบดานอยู่ทั่วโลก และนักรบบางส่วนซ่องสุมปฏิบัติการจากในทะเลทรายซีเรียและเมืองต่างๆ ของอิรัก
อมาร์นาฐ อัมราสิงกัม นักวิจัยอาวุโสของอินสติติวท์ ฟอร์ สเตรทเทอจิก ไดอะล็อก ระบุว่า แม้ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ แต่การที่บักดาดีกล่าวถึงการประท้วงในซูดานและแอลจีเรีย แสดงให้เห็นชัดเจนว่า วิดีโอนี้เพิ่งถ่ายทำไม่นาน และการกล่าวถึงการเสียพื้นที่ยึดครองเป็นความพยายามที่จะสื่อสารว่า ความพ่ายแพ้เป็นเหตุการณ์ที่คาดไว้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรไอเอสก็ยังคงอยู่รอด